นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ
นะมะอะอุ อิสวาสุ อุอะมะ อิกะวิติ
คาถาพระพุทธเจ้าประสานบาตร จัตตาโร ปัตเต
ยถา เอโกปัตโต ตะถา อธิฏ์ฐาหิ
ใช้ประสานบาดแผลหรือประสานกระดูกที่แตกหัก(จากหนังสือคู่มือชายชาตรี
อ.เทพ สาริกบุตร)
คาถาต่อรองราคาและสุนัขรอดรั้วไม่ได้ อิติ อิติ
(ของหลวงปู่ศุข ได้คาถามาจากคนแก่อายุ 90กว่าปีที่ชัยนาทท่านเคยเป็นพระได้ไปเรียนวิชาจากหลวงพ่อเดิม)
คาถาโภคทรัพย์ นิทะนะโภคัง
โทสิมานิ (ได้มาจากคนแก่คนเดียวกัน)
พระคาถาของหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง
อุทัยธานี
พระพุทธคาถา
สัมมาสัมพุทธัสสะ
พระอะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ
สวดทุกคืน คืนละ 7 จบ อานุภาพคาถามีดังนี้
1.
ศัตรูจะพินาศไปเองเมื่อคิดประทุษร้าย
2.
จะเกิดผลในด้านมงคลทุกประการตามที่ปรารถนา
3.
จะสามารถเห็นได้แจ่มแจ้งด้วยญาณ เห็นได้ชัดเจนทุกประการ
และทุกขณะที่ประสงค์จะเห็น
4.
เป่าให้ศิษย์ผู้เรียนทิพยจักขุญาณ และเรียนไปปรโลกได้
มีญาณเครื่องเห็นแจ่มใส
คาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า
ตั้งนะโมฯ 3 จบก่อนแล้ว นมัสการสรณคมณ์
(พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ)
แล้วให้สมาทานศีล 5 (ปาณา ฯลฯ สุราเมระยะฯ )แล้วจึงท่อง
พุทธะ มะ อะ อุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา
วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
สวดเช้าเย็น ครั้งละ 9 จบ
จะทำให้มีความคล่องตัวในความเป็นอยู่ เงินไม่ขาดมือ.
คาถาอภิญญารวม
โสตัตตะภิญญา
คาถารวมจิต
อิติ
สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง
คาถาปราโมทย์
ปราโมทย์
คาถาพระนิพพานนิมิต
นิมิตจิตติ
นิมิตจิตตา นิพพานจิตติ นิพพานจิตตา
คาถาเรียกจิตคน
จิตตะ มหาจิตตัง
ปิยัง มะมะ (เรียกจิตคนสำหรับเทศน์ อบรม สนทนา ทำให้ใจคนน้อมมาหา)
คาถาสนองกลับผู้กระทำไสยศาสตร์
สัมปจิตฉามิ
คาถาป้องกันคุณไสย และกันยาพิษ ยาสั่ง
เมสัมมุขา
สัพพาหะระติ เตสัมมุขา
คาถากำบังตัว
สัมปะติจฉามิ
คาถากันฟ้าผ่า
อากาเสจะ
พุทธทิปังกะโร นะโมพุทธามะ
คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง
มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง
มัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ
ฆะเตสิ ฆะเตสิ
กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ
หลวงพ่อบอกคาถาบทนี้
เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๒๐ คาถาบทนี้ ท้าวเวสสุวัณให้มา
ท่านบอกว่าให้สวดมนต์ไว้ทุกคืน ก่อนอื่นให้ระลักถึงบารมีของพระพุทธเจ้าทุก ๆ
พระองค์ อันมีสมเด็จพระพุทธกัสสปทรงเป็นประธาน เพราะท่านเป็นเจ้าของคาถานี้
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง
มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง
มัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ
ในบรรทัดที่ ๒
นี้รักษาโรค ท่านบอกว่าเสกน้ำให้กิน เสกอะไรให้กิน เสกข้าวให้กินก็ได้นะ
แม้แต่ยาพิษมันก็สลายตัว อีกบทหนึ่งเป็นของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
ฆะเตสิ ฆะเตสิ
กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ
ทั้งสามบทนี้ท่านให้สวดพร้อมกันเลย
เวลาฉันข้าวก็เสก กลางคืนก็ให้ภาวนาไว้นะ ภาวนาไว้สักครู เช้าเย็นอะไรนี่นะ
ท่านบอกว่าศัตรูจะพินาศไปเอง สำหรับบทหลังศัตรูทำอะไรไม่ได้
จะทำอะไรแล้วเราจะต้องรู้อยู่เสมอ บทกลางนะทำลายโรค ได้ทำลายโรคนี่ดีใช่ไหม
เสกข้าวนะ ข้างที่เราจะฉัน เสกซะหมด และคนอื่นกินก็เป็นยาไปหมด
ให้เป็นยาสำรับคนอื่นด้วยนะ ดีไหม ถ้าเห็นว่าดี ถ้าคุณจะให้รักษานี่นะ
ถ้าจะใช้รักษาโรค คุณจะต้องหาดอกบัวมา ๓ ดอก ธูป ๕ ดอก เทียน ๑ เล่ม
บูชาขอต่อพระพุทธรูป (ผมเข้าใจว่า ถ้าไม่นำสิ่งที่ให้นำมาผลกรรม โรค นั้นจะตกที่คนรักษา)
ถ้าใครต้องการจะให้เรารักษา
ต้องบังคับให้เขาเอาดอกบัวมา ๓ ดอกนะ ธูป ๕ เทียน ๑ เสกน้ำมนต์ เสกอะไร
อะไรให้กินได้ นั่งทำก็ได้ นอนก็ได้
ภาวนาให้เป็นฌานเป็นฌานในกรรมฐานภายในตัวเสร็จ อย่าลืมนะ พระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์ เขาก็ได้ผลเท่ากันเป็นฌาน
คาถาพระอินทร์
สหัสสเนตโต เทวินโท
ทิพจักขุง วิโสทายิ
(ใช้กับการเรียน
ให้อ่านหนังสือแล้วจำได้ ทำข้อสอบได้)
คาถาพระยายม
นะโมพุทธายะ
พุทธคาถา
มหาวิชโย โหหิ
อสังวาโส
(ภาวนากันอันตรายทุกอย่าง
ผู้คิดร้าย จะย่อยยับไปเอง เป
คาถาเมตตา
พระอรหัง สุคโต ภะคะวา
นะเมตตาจิต
(คาถาบทนี้
หลวงพ่อบอกว่าให้ใช้เวลาไปติดต่อผู้อื่น เพื่อขอความช่วยเหลือ
โดยก่อนจะออกจากบ้าน ให้นึกใบหน้าของผู้ที่เราจะไปหาก่อน
แล้วภาวนาคาถาบทนี้ไปด้วย
เมื่อไปพบแล้วจะสำเร็จผลตามที่ต้องการคาถาบทนี้หลวงพ่อท่านบอกว่าเป็นคาถาของ
หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ภูเก็ต)
คาถาสมเด็จประทาน
มหาโคตมะ ปาทะเกหิ จะ
อปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง
(เสกของต่างๆ
ให้มนุษย์ จะได้มีจิตเมตตาต่อกัน เสกอะไรก็ได้)
คาถาพระโมคคัลลานะ
1.อิติ
สุกขติ สุกขโต (ทำน้ำมนต์ให้คนอยู่ในบ้าน จะได้รับความเมตตาเป็นพิเศษ)
2.อิติ
สุคติ สุคโต (ทำน้ำมนต์ให้คนเดินทาง จะประสบผลสมประสงค์และปลอดภัยทุกประการ)
คาถาท่านท้าวเวสสุวัณ
พยัคฆัง พยัคฆา
มานี่ให้หมด
(เป็นคาถาภาวนาให้คนมารวมกัน
อธิษฐานเอาตามใจ ภาวนาเรียกเสกแป้ง สีผึ้งก็ได้)
คาถาป้องกันอันตราย
รูปพระพุธโธ โหหิ (ภาวนาคาถานี้
เสกน้ำลายกลืนลงไปก่อนออกจากบ้าน ท่านกล่าวว่า แม้ปืนก็ยิงไม่ออก)
คาถานวด
อิมัสมิงมาเล อิมังเต
มาสัง วัสสัง อุเปมิ
(นึกถึงพระรัตนตรัยก่อนว่าคาถา
แล้วให้ภาวนาเรื่อยไปขณะนวด)
คาถาเสกของขายภายในร้าน
นะมะนะอะ นอกอนะกะ
กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มหิสุตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ
คาถาให้สารภาพ
กัณหัง อเสนโต อเทสยิ (บอกความจริงให้หมด)
คาถาท่านท้าวมหาราชทั้ง 4
อิติ
สัมมาสัมพุทธัสสะ พระอรหังรักษา
(ท่านบอกว่าท่องคาถาบทนี้แล้ว
ไม่ต้องกลัวอันตราย)
คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป
จิเจตะสา มหามันตัง
(สอนให้ทำน้ำมนต์
ใช้การทุกอย่างสวัสดี เป็นมหาเมตตา และทำลายโชคร้ายทั้งหมด ให้กลายเป็นดี
รักษาโรคทั้งหมด ตามแต่จะอธิษฐาน)
คาถาโรยทราย (นะจังงัง)
นะโม พุทธายะ (ว่า 1 จบ) อิติ ศัตรู
ยามาคะตา(โรยไปว่าไป) (ป้องกันศัตรู)
คาถาเสกขี้ผึ้งสีปาก เมตตามหานิยม
(คาถาพระพุทธกัสสป)
นาสังสิโม ปาสุอุชา 10รอบ
คาถาเสกข้าวกิน(พระเจ้า 16 พระองค์)
ก่อนกินข้าวคำแรก
ให้ตั้งนะโม 3 จบระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยคุณพ่อแม่
คุณครูอาจารย์ คุณพระแม่โพสพ ฯลฯ แล้วท่องว่า “นะมะ นะอะ
นอกอนะกะ กอออ นออะ นะอะ กะอัง อุมิ อะมิ มะหิ สุตัง สุนะ พุทธัง อะสุ
นะอะ.” เสกข้าวกินสามคำ สามเดือน จะอยู่ยงคงกระพัน
เสกข้าวกินสามคำเป็นเวลา2 ปีกระดูกจะเป็นทองแดง
เป็นยอดวิชาชาตรี สิทธิการิยะ พระอาจารย์
แต่งอุปเท่พระคาถาบทนี้ไว้ให้เป็นทานแก่สมณะชีพราหมณ์ กุลบุตรทั้งปวง
พระคาถานี้เรียกว่าธัมมะราชาจัดเป็นใหญ่กว่าคาถาทั้งปวง สารพัดกันอันตรายทั้งปวง
คุณผีคุณคน ก้างติดคอเสกน้ำให้กิน เสกข้าวเสกน้ำกินทุกวันอยู่คงแก่อาวุธทั้งปวง
ถ้าเสกกินอยู่ 3 ปี อยู่คงทั้งร่างกายจนกระทั่งถึงกระดูกแล
อยากให้คงถึงบริวารในบ้าน ให้เอาดินสอพองเขียนพระคาถานี้ใส่กระดานชนวนแล้วให้เสก
๑๐๘ ที ลบผงนั้นใส่ตุ่มข้าวเสกทับอีก ๗ ที จงคนเสียให้ทั่ว
หุงกินแล้วคงทนทั้งเรือน เสกไคลพระเจดิย์อมไว้คงทนยิ่ง
หากหลงป่าเสกใบหมากเม่ากิน จะสามารถอดข้าวได้ ๗ วัน
ถ้าศัตรูไล่มาให้เสกกิ่งไม้ขวางทางไว้ ศัตรูจะเห็นเป็นขวากหนามกั้น
ทำให้ตามมิทัน ถ้าขโมยเอาของไปจะมิให้มันหนีรอด
เอาพระคาถานี้ลงไม้กาหลงหรือใบไม้ทั้งปวงก็ได้ เสก
แล้วนำไปฝังตรงที่มันขโมยของไปมันจะมิไปไหน
เดินวนเวียนอยู่ในที่นั้นเองหาทางออกมิเจอ ถ้าจะให้มันเจ็บเท้า
ให้เสกหนามแหลมแทงรอยตีนมัน จะเป็นที่ส้นหรือกลางตีน มันไปมิได้
ให้เจ็บเหมือนเหยียบขวากหนามแล พระคาถาบทนี้ฝอยนั้นว่ากันว่าท่วมหลังช้าง แล.(จากคู่มือชายชาตรี
อ.เทพ สาริกบุตร)
คาถาของเสือมเหศวร (พระคาถาคงกระพัน แคล้วคลาด)
" พุทธังคงหนัง ธัมมังคงเนื้อ สังฆังคงกระดูก พุทบังไฟ โธบังรูป
ธาปิดปากกระบอก ยะไม่ออก อุดโธ อุดโธ "
คาถาค้าขายดี ของหลวงพ่อเสือดำ(เป็นพระคาถาสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า)
นะฤาชา กุติยะ
ปัญจะลือ โสภะกัญจะ สะวะรัง วะรัง ฤามะหันตา นะมามิหัง กรินิ อักขรานิ ชาตานิ อุณาโลนาถัง เพชรตังโหติ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ สัตถุโน พุทโธ จงเป็นที่นิยมของประชาชน อิทะคะมะ อิทิเตตะโส
คันหัง คันหาหิ ทามะสา สัตถาเทวะราชาจงเห็นหน้าแม่ค้า สานังพุทโธ ภะคะวาติ
คาถากำบังตน คาถาประจำตัวเสือดำ
ล้อมก็ไม่เจอ
เดินผ่านไปก็ไม่เห็น พุทธัง
บังจักขุ มะอะอุ ไม่เห็นอิตัวกู ธัมมัง บังจักขุ
มะอะอุ ไม่เห็นอิตัวกู สังฆัง บังจักขุ มะอะอุ
ไม่เห็นอิตัวกู
ไม่เห็นอิ ไม่เห็นอะ
ไม่เห็นธะ ไม่เห็นมะ ยะ อุมะอะปิอะ
อะตัวกู
ฆะเตสิท อะหังปิตตัง
นะชานามิ โจรา
โจวา โจวา ปะรายันติ (ภาวนา3รอบเอามือลูบหน้า)
คาถามหาอุด หลวงพ่อเสือดำ
สัตถา
ธะนุง อากัฑฒิตุง ทัตตะวา วิสัชเชตุง นาทาสิ
อุมะ
อะปิด อะ อุมะอะปิด อะ อึอุ ฯ ท่อง 3 รอบ แล้วเอามือลูบหน้า
คาถาค้าขายดี หลวงพ่อเสือดำ
อิทะคะมะ
อิธิเจ ตะโส คันหาหิ ถามะสา สัตถาเทวะ มึงเห็นหน้ากูทุกคน
สานัง พุทโธภะคะวาติ
ฯ
คาถา กันงู และหมาตลอดสัตว์ทุกชนิดอ้าปากกัดไม่ได้ อ.ชุม ไชยคิรี
ให้ภาวนา ว่า ฆ.ง.
เดินไปตามทาง งู หมา กัดไม่ได้
เวลากลับบ้านให้แบมือออกแล้วหายใจให้สบาย
ภาวนา
ฆะงะ
งูและสัตว์ที่อยู่ตามทางที่เราผ่านไปจะได้กินอาหารได้ (จากหนังสือกุญแจไสยศาสตร์
อ.ชุม ไชยคิรี )
คาถามหาอุด (ให้อึดใจภาวนา)
นะอุดโมอัด
นะโมพุทธายัด ตันอึ (จากหนังสือกุญแจไสยศาสตร์ อ.ชุม ไชยคิรี )
คาถากวางเหลียวหลัง
อิตถีโย ตะรุโณ ชาโต
เอหิสะมาคะมะ สัมมาจิตตัง สามะคะโม จิตตัง สามาคะมะ (จากคู่มือชายชาตรี)
(ภาวนาแล้วเดินตามหลัง
เขาหันหน้ามาแล)
คาถาทางลาภผล หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
สิทธิพุทธัง
กิจจังมะมะ ผู้คนไหลมา นะชาลิติ
สิทธิธัมมัง
จิตตังมะมะ ข้าวของไหลมา นะชาลิติ
สิทธิ์สังฆัง
จิตตังมะมะ เงินทองไหลมา นะชาลิติ
พระฉิมพลี จะมหาลาภะ
ลาภาลาโภลาภัง ภะวันตุเม
คาถาใช้มีดหมอสับรักษาโรค (ได้พระคาถาจาก ลพ.ไสว วัดบ้านลวด
ศิษย์ฤาษีสมพิศ)
วิธีใช้ นะโม 3 จบ บอกกล่าวดังนี้
ครูเรืองบ้านห้วยไผ่
ครูพ่อเฒ่าสีตะบู่ ขอวิชาครูเป่าโรคภัยให้หาย ตัวคาถาว่าดังนี้
นะธะมินมิน รามินมิน
คาถาพระเจ้า 16 พระองค์
พระคาถาที่ 1 พระเจ้า 16 พระองค์
ตัวผู้
นะมะนะอะ
นอกอนะกะ กอออนออะ
นะอะกะอัง
พระคาถาที่ 2 พระเจ้า 16 พระองค์
ตัวเมีย อุมิอะมิ มะหิสุตัง
สุนะพุทธัง อะสุนะอะ
พระคาถาที่ 3 มหาชาตรี
เป็นบทภาวนารักษากระดูกและอวัยวะภายใน
อุสุสุททา กาภะมาทะ
ชานะมิสุ มุทุอุอะ
แต่พระคาถาพระเจ้า16พระองค์
มีข้อบ่งใช้สำหรับเสกข้าวกิน 3 คำ 3 เดือน
เป็นคงกระพัน 2 ปี กระดูกเป็นทองแดงเป็นยอดวิชาชาตรี
คาถาโชคลาภ ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
ตั้งนะโมฯ 3 จบ แล้วสำรวมจิตกล่าวคาถา
สิทธิพุทธัง
กิจจังมะมะ ผู้คนไหลมา นะชาลีติ สิทธิธัมมัง จิตตังมะมะ ข้าวของไหลมา
นะชาลีติ สิทธิสังฆัง จิตตังมะมะ เงินทองไหลมา นะชาลีติ ฉิมพลี มหาลาภัง
ภะวันตุเม
คาถาขุนพันธรักษ์ราชเดช
เสก นะ ทาทีโสต โม
ลงโทษทาชิวหา เสก พุททาหน่วยตา แล้วเสกทา ทาถานัง เสกยะทา กระหม่อม
อักขระทั้งมูลเป็นฉะหัง แล้วเสกนะเตชัง ปะกับไว้เป็นมงคล เสกจบครบทั้งห้า อาวุธมาเป็นห่าฝน มิได้เข้าใกล้ตนประสกพ้น อันตราย
พระคาถาดำเนินสะดวก
ของท่านพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช
จอมขมังเวทย์ในสายเขาอ้อ พระคาถาดำเนินสะดวก
มีใจความดังนี้ ตั้งนะโม ๓ จบ " มะหะตาวิริเยเนปิ มะหันตังปาระมี อะฤๅมนุษย์ษะเทเวหิ พรัหม เมหิ มะหิตันตัง นะมามิหัง " ตั้งจิตภาวนา สวด ๑๙ จบครับ ท่านพล.ต.ต.ขุนพันธ์รักษราชเดช
กล่าวไว้ว่า ให้สวดก่อนเดินทางไปไหนมาไหน
จะทำให้เดินทางเเคล้วคลาดปลอดภัย จากภัยภยันอันตรายทั้งหลายทั้งปวง เทพเทวดาพระพรหมทั้งหลายจะปกป้องคุ้มครองรักษา เเละเป็นเมตตามหานิยม การใช้ คาถา-อาคม ถ้าจะใช้ให้ได้ผลจริง จำเป็นไหมที่จะต้องมีครู ผมเคยได้ยินว่า ถ้ายังไม่มีครู ก็ ท่องบท สัจจะวาจา(ปกาสิตพระร่วง)
บทเบิกพรายปาก, หัวใจพระสังคหะ, บททำน้ำมนเสกใส่ส้มป่อย, คาถาล้างบริสุทธ์
(ของขุนพัน) ฯ
หากท่านผู้อ่านต้องการนำพระคาถาในหนังสือนี้ ไปใช้
ให้จัดหาดอกไม้ธูปเทียนพร้อมเงิน 12 บาท
จัดใส่พาน วางหนังสือแล้วชำระร่างกายให้สะอาด สวดมนตร์ไหว้พระ
พอจิตใจสงบแล้วให้ท่องนะโมสามจบ แล้วกล่าวคำบูชาครูดังต่อไปนี้
บทไหว้ครู
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต
อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ( 3จบ) “ วัตถิตตะวา
ครูอาจาริยะ ปาทังสัพพะ อันตะรายัง วินาสสันติ สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิลาโภ นิรันตะรัง สิทธิเตโช
ชะโยนิจจัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิเม สัพพะสิทธิ อิทธิฤทธิ ประสิทธิเม สวาหะ.” ข้าพเจ้าขอบูชา คุณพระรัตนตรัย พระอรหันต์ทุกพระองค์ คุณบิดร มารดา คุณครูบาอาจารย์ คุณหลวงปู่ทวด หลวงพ่อโต หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม หลวงพ่อกุน วัดพระนอน หลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อโศก หลวงพ่อสี วัดปากคลองบางครก หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส หลวงพ่อปานวัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง ครูบาอาจารย์สำนักเขาอ้อทุกท่าน พระคเณศ องค์พรหม องค์เทพ เทวาทุกสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า องค์พ่อแก่ บรมครู ปู่ฤาษี108 ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี
ผู้ศักดิ์สิทธิ์ท่านอาจารย์ณัฎฐเดชผู้เรืองเวทย์แห่งสำนักกุญแจไสยศาสตร์
ท่านอาจารย์วิสัย ฆราวาสผู้เรืองเวทย์
เกจิอาจารย์ทั้งหลาย ผู้เรืองฌาน เรืองเวทย์ ครูไสยเวทย์ทั่วประเทศ
เขตแคว้น พระเจ้าแผ่นดิน ทุกๆพระองค์ วีรบุรุษ วีรสตรีทุกท่าน
ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอบูชาท่านด้วยความเคารพนับถือท่านเป็นครูบาอาจารย์ ขอดวงจิตดวงวิญญานของท่านทั้งหลายโปรดรับรู้ด้วยเถิด ข้าพเจ้าชื่อ(ชื่อของท่าน)…….ขอนำบทพระคาถาอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ไปใช้ให้บังเกิดประโยชน์ ขอท่านครูบาอาจารย์เจ้าทั้งหลายเหล่านี้และครูบาอาจารย์เจ้าของพระคาถาโปรด อนุญาตด้วย และขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดช่วยดลบันดาลนำกุศลของข้าพเจ้าตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบัน นำส่งมอบให้ท่านครูบาอาจารย์เจ้า เทพเทวา ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลายที่เอ่ยถึงด้วยเถิด. เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถนำคาถาต่างๆใน หนังสือนี้ไปท่องสวดได้ตามใจปราถนา
ขอให้อยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา อย่าใช้คาถาในทางผิดศีลธรรม
อย่าใช้เพื่อแย่งชิงของๆคนอื่น หรือผิดทำนองคลองธรรม
แค่นี้ท่านก็สัมฤทธิผลแล้ว (นำเงิน 12 บาท ไปทำบุญตักบาตรอุทิศให้ครูบาอาจารย์ทั้งหลายอีกครั้ง ทุกครั้งที่ทำบุญมากน้อยให้ระลึกถึงว่าขออุทิศบูญนี้มอบให้ครูบาอาจารย์และ เทพเทวาทั้งหลายด้วยเถิด…..)
คาถามหาเศรษฐี (ของพระพุทธเจ้า) ตั้งนะโม 3 จบแล้วว่า
“อัตตะ ทัตถัง ปะรัตเถนะ พะหุนาปิ นะหาปะเย
อัตตะ ทัตถะ มะภิญญายะ สะทัตถะ ปะสุโตสิยา”
“ พระคาถานี้เป็นพระคาถาโบราณขององค์สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรงอานุภาพแห่งพระคาถานี้โบราณท่านว่า
คนยากจน จะกลายเป็นคนชั้นกลาง
คนชั้นกลางจะกลายเป็นเศรษฐีได้ หากตั้งใจจริงย่อมร่ำรวยได้
ไม่ต้องรอถึงชาติหน้าเคล็ดลับของพระคาถานี้คือ 1.ผู้ใดหมั่นท่องพระคาถานี้ก่อนนอน ทุกคืนอย่าให้ขาด จำนวน 1,009 คืน
(ประมาณ 2 ปี 9 เดือน 9 วัน)ติดต่อกันอย่าให้ขาด ถ้าลืมท่องคืนใด คืนหนึ่ง ให้ตั้งต้นนับ 1 ใหม่ 2.ให้ท่องพระคาถานี้ ตามกำลังวัน คือ -วันอาทิตย์ให้ท่อง 6 จบ
-วันจันทร์ให้ท่อง 15 จบ
-วันอังคารให้ท่อง 8 จบ -วันพุธให้ท่อง 17 จบ
(ถ้าท่องหลังหกโมงเย็นไปแล้วให้ท่อง 12 จบ เพราะถือว่าเป็นวันพระราหู) -วันพฤหัสบดีให้ท่อง 19 จบ -วันศุกร์ให้ท่อง 21 จบ –วันเสาร์ให้ท่อง 10 จบ เคล็ดลับ สำคัญมี 2 วิธี ใครถนัดแบบไหนให้เลือกแบบนั้น
คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า (ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง) ให้ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า “อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส
พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโส ตัง พุทธะปิติอิ”
พระคาถานี้มีคุณสมบัติอัศจรรย์ 108 ประการ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังท่านมอบให้รัชกาลที่5 ตอนเสด็จประภาสยุโรป ซึ่งท่านได้ใช้เสกหญ้าให้ม้าพยศกินจนชาวต่างชาติทึ่งและยอมรับมาแล้ว พระคาถานี้ ใช้ภาวนาก่อนนอน ก่อนเดินทาง ก่อนขับรถ คุ้มครองตัว เสกก่อนคล้องพระครอบหัว เสกภาวนาจนจิตนิ่งทำน้ำมนต์แก้เสนียดจัญไรคุณไสย เสกข้าวกินอยู่ยงคงกระพัน เสกภาวนาให้ตัวเองมีสง่าราศี เมตตามหานิยมแก่ผู้พบเห็น เสกแป้ง เสกเครื่องแต่งกายได้สารพัด ครูอาจารย์ใช้เสกพระ เสกเครื่องรางของขลังมีฤทธิเดชมากมายมหาศาล แล้วแต่จะกำหนดจิตและอธิษฐานในการใช้ เมื่อได้พบได้เจอแล้ว
ถือว่ามีวาสนา ท่องจำให้ขึ้นใจ ภาวนาทุกเช้าค่ำเถิด
พลานุภาพมากมายเหลือคณานับ.
คาถาบูชา พระสีวลี ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า “สีวะลี จะมะหาเถโร
เทวะตานะ ระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทัมหิ สีวลี จะมะหาเถโร ยักขาเทวา ภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทัมหิ อะหัง วันทามิตัง สะทา สีวะลี เถรัตสะ เอตัง คุณัง สวัสดิลาภัง
ภะวันตุเม.”
ท่องทุกวันๆละ 3 จบหรือ 7 จบ ให้เป็นประจำ อธิษฐานขอโชค ขอลาภ ค้าขายดี
ท่องยังไม่ได้ ก็อ่านเอา เดี๋ยวจำได้เอง แต่ต้องมีสมาธิ
หากต้องการให้สำเร็จไวๆให้ถือศีลห้า ตักบาตรทุกวัน หรือทำสังฆทาน
บริจาคช่วยเหลือคนยากไร้ต่างๆ จะส่งเสริมให้ร่ำรวย ชาตินี้มีกินมีใช้ไม่รู้จักหมดจักสิ้น. วิธีบูชาพระสีวลี ให้บูชาด้วย ดอกไม้สีขาว ,ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหรือดอกบัว ครั้งละ 3-5-9 ดอกหรือใช้น้ำสะอาดลอยด้วยดอกมะลิ 1 ถ้วย
ธูป เทียน ถ้าสะดวกก็จุด หากไม่สะดวกให้บูชาด้วยความศรัทธาเลื่อมใสจากใจจริงและดวงจิตที่สงบก็ ศักดิ์สิทธิ์มากแล้ว ควรถวายน้ำผึ้งใส่ถ้วยเพิ่มให้ท่านเป็นพิเศษในวันพฤหัสก็ยิ่งดีมาก พระสีวลีในอดีตชาติได้ถวายน้ำผึ้งแด่พระวิ ปัสสีพุทธเจ้า
ชาติสุดท้ายนั้น ท่านเกิดเป็นพระราชโอรสของพระเจ้ามหาลิจฉวีและพระนางสุปปวาสาเทวี เมื่อตอนท่านอยู่ในพระครรภ์ของมารดา สามารถนำลาภสักการะมาให้พระมารดาเป็นอันมาก
โดยมีคนนำเครื่องบรรณาการ ถึง500 อย่างมาถวายทุกเช้าเย็น จนเป็นที่เลื่องลือว่า ตั้งแต่พระนางตั้งพระครรภ์ก็บังเกิดเป็นลาภผลมากมาย แสดงว่าโอรสในพระครรภ์ต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการสูงส่ง เมื่อพระสีวลีออกบวช ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์และเป็นผู้ที่มีลาภสักการะมากมายเหลือคณานับไม่ว่า ไปที่ใด
ก็มีผู้คนนำข้าวปลาอาหารอย่างดีมาทำบุญอยู่ตลอดแม้แต่ในที่กันดาร หากท่านเดินทางไปเยือน มีทั้งคนและเทวดามาทำบุญถวายข้าวปลาอาหารสิ่งของต่างๆอย่างเนืองแน่น พระภิกษุรูปอื่นๆที่ไปด้วยก็ได้อานิสงค์ไปด้วย จนพระพุทธเจ้าได้ยกย่องพระสีวลีเถระว่า เป็นพระอรหันต์ผู้ที่เป็นเลิศด้วยลาภสักการะยิ่งกว่าพระภิกษุองค์ใดในสมัย พุทธกาล เรื่องราวของท่านนั้นเป็นจริงดังปรากฏอยู่ในคัมภีร์ทางพุทธศาสนา คัมภีร์อินเดียโบราณ คัมภีร์เก่าแก่ของพม่า มอญและขอมเป็นต้น โดยมีความเชื่อตรงกันว่า
หากผู้ใดสักการะบูชาพระสีวลีหรือรูปเหมือนพระสีวลีเป็นประจำ ย่อมทำให้ผู้นั้น ชีวิตมีแต่ความเจริญก้าวหน้า ประสบแต่โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา ผู้คนยกย่องสรรเสริญ รอดพ้นจากอันตรายด้วยอำนาจบารมีขององค์พระสีวลีปกป้องรักษา
คาถาบูชาพระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม ตั้งนะโม 3 จบแล้วว่า
“จิตติ จิตติ ริตติ ริตติ มิตถิ มิตถิ เอหิมะมะ ปทุมมะ พุทโธนานา ปรามี สัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา มะอะอุ เมตตาจะมหาราชา สัพพะสุขัง มหาลาภัง สัพพะโกรธัง วินัสสันติ อะหังวันทามิ สัพพะทา.
ให้สวด 3-5-7-9 จบหรือสวดเท่าอายุของผู้สวดก็ได้ เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน อยู่เย็นเป็นสุข แคล้วคลาดปลอดภัย มีโชคลาภ สวดทุกวันปลดหนี้ปลดสินได้ พระอุปคุตคือพระเถระรูปหนึ่งเกิดหลังพุทธกาลสองร้อยกว่าปีในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
ท่านมีฌานสมาบัติสูงส่ง สถิตอยู่ณ.ท้องมหาสมุทร
มีฤทธิเดชมากมาย ได้รับความเคารพนับถือแพร่หลายในประเทศ
พม่า มอญ เขมร และชาวไทยล้านนา ภาคเหนือของไทย มีประวัติเล่าว่าชาวพม่าได้ใส่บาตรพระอุปคุต แล้วกลายเป็นเศรษฐี
จึงมีประเพนีที่ตักบาตรในวันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธ เพราะวันนั้นพระอุปคุตจะออกมารับบิณฑบาตร และถึงแม้จะไม่ได้ตักบาตรพระอุปคุตเพียงแต่ท่านมีรูปพระอุปคุตไว้บูชา สักการะ ท่องคาถาบูชาก็จะเกิดผลานิสงส์ได้ผลบุญเดียวกัน ด้วยเหตุที่ท่านจำศีลอยู่กลางสะดือทะเลจึง จัดตั้งรูปของท่านให้อยู่ในพาชนะหรือพานรองที่ล้อมรอบด้วยน้ำอันเต็ม บริบูรณ์ ประหนึ่งว่าท่านจำศีลอยู่ในทะเล แล้วลอยด้วยดอกมะลิอันมีกลิ่นหอมคือให้บูชาท่านด้วยดอกมะลิ การสักการะบูชาท่องคาถาได้ทุกวัน แต่เน้นเป็นพิเศษในเช้าวันพุธขึ้น 15 ค่ำ (วันเพ็ญ)
เพราะเชื่อกันมาแต่โบราณว่าท่านจะออกมาบิณฑบาตร ผู้ใดหมั่นหมั่นท่องคาถาบูชาพระอุปคุตอยู่เป็นประจำ จะทำให้เกิดสิริมงคล อุดมไปด้วยโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองเพิ่มพูนมากมาย อีกทั้งยังเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม มีตบะ มหาอำนาจ ศัตรูผู้คิดร้ายเกรงกลัวและพ่ายแพ้ ทำให้หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง มีอานุภาพคุ้มครองขจัดปัดเป่าเภทภัยต่างๆให้มลายหายไปสิ้น
พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์
ก่อนสวดให้ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย
ครูผึ้ง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโคและหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง (ตั้งนะโม 3 จบ ) ( พระคาถาบทนำว่าครั้งเดียว)
“ พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ “ พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ “ วิระทะโย
วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสะ มานีมามะ พุทธัสะ สวาโหม
“ พระคาถาของพระปัจเจกโพธิ์นี้ ท่านพระครูวิหารกิจจานุการ(หลวงพ่อปาน
วัดบางนมโค) เป็นผู้ได้ไปเรียนมาจากครูผึ้ง
เวลานั้นครูผึ้งอายุได้ 99 ปี เมื่อพ.ศ.2472 ท่านเรียนมาแล้วได้ปฏิบัติเห็นผลมามาก ถึงคนๆอื่นที่ท่านให้เรียนต่อ นำเอาไปปฏิบัติตามก็ได้บังเกิดผลมาแล้วมากหลาย ผู้ที่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระคาถานี้ ต้องเป็นผู้ที่ใส่บาตรแก่พระภิกษุสงฆ์อยู่เสมอ
เป็นนิจ แม้แต่ 1องค์ขึ้นไปมิได้ขาด รักษาศีล 5 หรือศีล 8 หมั่นสวดมนต์และว่าพระคาถานี้ด้วย
เวลาเช้าตื่นนอนว่า 3-5-7-9 จบ(หมายความว่าผู้ใดยินดีปฏิบัติพระคาถากี่จบก็ได้
เช่น จะว่า3 จบ 5 จบ 7 จบ 9 จบเป็นต้น
แต่การว่าต้องว่าเสมอกันไป จะว่าน้อยๆ มากๆ สลับกันไปไม่ได้ จะไม่เกิดผลเลย แต่พยายามว่าจบที่น้อยไปหามากได้เป็นดี ทำให้เห็นผลเป็นระยะ แล้วจึงค่อยกระเถิบมากขึ้นเป็นลำดับ) เมื่อจะใส่บาตรให้ระลึกถึงพระรัตนตรัยก่อน แล้วจึงจบขันข้าว
และให้ว่าพระคาถานี้ 3 -5-7-9จบเมื่อใส่บาตรเสร็จแล้วให้ระลึกถึงพระรัตนตรัย
คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และพระปัจเจกโพธิ์
ครูผึ้ง อาจารย์เนียร ตลอดจนถึงหลวงพ่อปานวัดบางนมโคเป็นที่สุด
ขอให้จงมาโปรดข้าพเจ้าด้วย แล้วหาน้ำที่สะอาดมากรวดน้ำ
เพื่ออุทิศส่วนบุญและกุศลไปถึงปู่ย่าตายาย บิดามารดา และญาติมิตรสหายที่ล่วงลับไปแล้ว
ตลอดถึงผู้มีพระคุณทั้งหลาย เวลาค่ำบูชาพระสวดมนต์แล้ว
ว่าพระคาถานี้อีก 3-5-7-9 จบเวลาเข้านอนกราบพระในที่นอนแล้วว่าคาถานี้อีก 3-5-7-9 จบ และถ้าใครปฏิบัติดังนี้ทุกวันเป็นนิจ
จะมีลาภและมีความสุขความเจริญ เพราะหลวงพ่อปาน
วัดบางนมโค จะโปรดบุคคลทั้งหลายทั่วไปที่ยากจนขัดสน เพื่อให้พ้นทุกข์จากความอดอยาก
แต่ท่านห้ามประพฤติความชั่ว ต้องรักษาศีล 2 ข้อที่สำคัญที่สุดให้ได้แน่นอนก่อนปฏิบัติพระคาถานี้
คือศีลข้อ 2 ของศีล 5 คืออทินนาทาน เว้นจากการลักทรัพย์หรือหยิบฉวยสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่อนุญาตมาเป็นสมบัติ ของตน กับศีลข้อ 5 ของศีล 5 คือเว้นจากการดื่มเสพสุรายาเมาทุกชนิด กับห้ามใช้ในทางมิจฉาชีพทุกชนิด
และการพนันต่างๆด้วย หรือถ้าผู้ใดรักษาศีล5ได้ทั้งหมดก็ยิ่งดี ผู้ใดประพฤติได้ดั่งนี้แล้ว จงปฏิบัติตามพระคาถาของพระปัจเจกโพธิ์ จะเห็นคุณในไม่ช้าเพียงเวลา 6 เดือนก็ทราบได้ ถ้าใครทำนานๆได้หลายปีก็จะมีความสุขดียิ่งขึ้นไปทั้งชาตินี้และชาติหน้า ใครได้ปฏิบัติตามจงกระทำใจของตนให้ผ่องแผ้ว ระลึกถึงพระรัตนตรัยและพระปัจเจกโพธิ์
ให้เที่ยงแท้(อย่าได้ระแวงหรือสงสัย) (คัดมาจากหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง
เล่ม6 ปี 2547 โดย
พระราชพรหมยาน(มหาวีระ ถาวโร) วัดจันทาราม(ท่าซุง)อ.เมือง จ.อุทัยธานี) คาถานี้มีความศักดิ์สิทธิ์นักแล เมื่อจะนำเงินเข้าเก็บและนำเงินออกมาใช้ ให้ว่าคาถานี้ทุกครั้งตามจำนวนที่เคยว่าอยู่ เช่นปกติเคยว่าอยู่7 จบ เมื่อนำเงินเข้าเก็บก็ให้ว่า 7 จบก่อน เมื่อจะนำออกมาใช้ก็ให้ว่า 7 จบเช่นเดียวกัน หากไม่สะดวกที่จะใส่บาตรพระทุกวันให้นำเงินมาว่าคาถานี้แล้วใส่ในบาตรจำลองที่บ้านทุกวัน
เมื่อมีเวลาก็นำเงินไปถวายพระเป็นค่าภัตตาหารแก่ทางวัดก็ได้ หรือหากใครทำเป็นกรรมฐานได้ยิ่งดีโดยกำหนดลม หายใจเข้าออกไปพร้อมๆกันด้วยว่าคาถาช้าๆตามสบาย
ทำได้ตลอดเวลาทั้งวัน ไม่ว่าจะนั่ง เดิน ยืน นอน
หรือก่อนนอนทำสัก5นาทีแล้วค่อยๆเพิ่มตามลำดับ พอจิตใจสบายแล้วค่อยหลับจะภาวนาจนหลับไปเลยก็ได้ ท่านว่าการค้าการขายดี ลาภผลเงินทองจะหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย.
คาถาเสกข้าวกิน(พระเจ้า 16 พระองค์) ก่อนกินข้าวคำแรก
ให้ตั้งนะโม 3 จบระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยคุณพ่อแม่
คุณครูอาจารย์ คุณพระแม่โพสพ ฯลฯ แล้วท่องว่า
“นะมะ นะอะ นอกอนะกะ กอออ นออะ นะอะ กะอัง
อุมิ อะมิ มะหิ สุตัง สุนะ พุทธัง อะสุ
นะอะ.”
เสกข้าวกินสามคำ
สามเดือน จะอยู่ยงคงกระพัน เสกข้าวกินสามคำเป็นเวลา2 ปีกระดูกจะเป็นทองแดง เป็นยอดวิชาชาตรีสิทธิการิยะ พระอาจารย์ แต่งอุปเท่พระคาถาบทนี้ไว้ให้เป็นทานแก่สมณะชีพราหมณ์ กุลบุตรทั้งปวง พระคาถานี้เรียกว่าธัมมะราชาจัดเป็นใหญ่กว่าคาถาทั้งปวง สารพัดกันอันตรายทั้งปวง คุณผีคุณคน ก้างติดคอเสกน้ำให้กิน
เสกข้าวเสกน้ำกินทุกวันอยู่คงแก่อาวุธทั้งปวง ถ้าเสกกินอยู่ 3 ปี อยู่คงทั้งร่างกายจนกระทั่งถึงกระดูกแล
อยากให้คงถึงบริวารในบ้าน ให้เอาดินสอพองเขียนพระคาถานี้ใส่กระดานชนวนแล้วให้เสก
๑๐๘ ที ลบผงนั้นใส่ตุ่มข้าวเสกทับอีก ๗ ที
จงคนเสียให้ทั่ว หุงกินแล้วคงทนทั้งเรือน
เสกไคลพระเจดิย์อมไว้คงทนยิ่ง หากหลงป่าเสกใบหมากเม่ากิน
จะสามารถอดข้าวได้ ๗ วัน ถ้าศัตรูไล่มาให้เสกกิ่งไม้ขวางทางไว้
ศัตรูจะเห็นเป็นขวากหนามกั้น ทำให้ตามมิทัน
ถ้าขโมยเอาของไปจะมิให้มันหนีรอด เอาพระคาถานี้ลงไม้กาหลงหรือใบไม้ทั้งปวงก็ได้
เสก แล้วนำไปฝังตรงที่มันขโมยของไปมันจะมิไปไหน เดินวนเวียนอยู่ในที่นั้นเองหาทางออกมิเจอ ถ้าจะให้มันเจ็บเท้า ให้เสกหนามแหลมแทงรอยตีนมัน จะเป็นที่ส้นหรือกลางตีน มันไปมิได้ ให้เจ็บเหมือนเหยียบขวากหนามแล
พระคาถาบทนี้ฝอยนั้นว่ากันว่าท่วมหลังช้าง แล.(คัดลอกจากต้นฉบับตำราเก่า)
คาถาบูชาแม่นางกวัก ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า ”โอม ปู่เจ้า เขาเขียว
มีลูกสาวคนเดียว ชื่อว่านางกวัก ใครเห็น ใครรัก ใครเห็น ใครหลง จงนำเงินทอง ข้าวของ มาให้แก่กูผู้เดียว มานิ มามา
“ นางกวัก หรือขุนหญิงกวักทองมา หรือพระศรีอุมา หรือพระเทวีสุชาดา ท่านมีหลายชื่อ แล้วแต่ตามตำนานหรือตามยุคสมัยหรือตามแต่บูรพาจารย์ผู้สร้างท่านจะกำหนด ซึ่งต่างได้ออกแบบสร้างขึ้นเป็นที่เคารพบูชาถือเป็นเจ้าแม่แห่งโชคลาภทรัพย์สิน
ได้เป็นหลักฐานยืนยันแต่ครั้งโบราณกาลถึงปัจจุบันว่า นางกวักนี้เป็นหญิงไทยที่มีคนเคารพบูชาบวงสรวง
มากที่สุด ท่านที่ได้ตาทิพย์หรือจักขุญาณบอกว่า เมื่อติดต่อกับกายทิพย์ของท่านนางกวัก ทราบว่าทรงมีพระนามว่า
พระศรีหรือสุชาดา(พระศรีนี้องค์เดียวกันกับที่คนไทยโบราณเชิญลงประทับเล่นฟ้อนรำ แม่ศรีตามประเพณีครั้งเก่าก่อน) คาถานี้เป็นฉบับย่อ
ใช้ท่องบูชาแม่นางกวัก ทำน้ำมนต์พรมของขาย
หรือภาวนาระหว่างขายของก็ได้ ดีนักแล.หากต้องการให้ได้ผลสุงสุด ทุกครั้งที่ท่านทำบุญให้อุทิศบุญกุศลที่ทำให้แม่นางกวักด้วย ท่านจะได้ช่วยให้ค้าขายดี ร่ำรวยรุ่งเรือง ตลอดไป.
คาถาบูชาพระราหู ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า
“ยัส สา นุส สะระ เณ นาปิ” (ท่อง 12 จบ) แล้วอธิษฐานว่า หากข้าพเจ้ามีเคราะห์ข้าพเจ้าขอคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง โปรดคุ้มครองข้าพเจ้าให้แคล้วคลาดปลอดภัย สุขภาพแข็งแรงและให้ข้าพเจ้าเจริญด้วย
การงาน การเงิน การค้า การขาย ด้วยประการทั้งปวงเทอญ.ใช้ท่องได้สำหรับทุกคนทุกท่านไม่ว่าจะเกิดวันอะไร ท่องทุกวันยิ่งดี.หากต้องการให้ได้ผลสูงสุด เมื่อท่านทำบุญ สวดมนต์ นั่งกรรมฐานแล้วขออุทิศบุญกุศลที่ทำทั้งหมดให้พระราหูท่านด้วยจะยิ่งดีมาก ขึ้น เปรียบเสมือนคุณได้เข้าไปในกระแสบุญของพระโพธิสัตว์พระราหูนั่นเอง อันว่าพระราหูนั้นมีผู้เข้าใจผิดมากมายกล่าว หาว่าไปหลงไหว้ยักษ์มารทำไม จะขอบอกว่าคนที่พูดมิได้รู้หรือศึกษาอย่างลึกซึ้งจริงจัง พูดขึ้นมาจากสิ่งที่เห็นและรู้สึกเท่านั้น แท้จริงแล้วพระไตรปิฏกในพระพุทธศาสนาได้ กล่าวไว้ว่า หลังจากที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทรงปราบพยศพระราหูได้แล้ว ได้ทรงพยากรณ์ว่า ในอนาคตพระราหูจะบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านามว่า พระนารทพระพุทธเจ้า นับเป็นองค์ที่ 5 ถัดจากพระศรีอาริยเมตไตยพุทธเจ้า จากคติดังกล่าวนี้นับได้ว่า ในปัจจุบันนี้ท่านพระราหูนั้น มีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์ และบรมโพธิ์สัตว์ ที่กำลังสร้างบารมีสะสมเพื่อที่จะได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้าต่อไปในอนาคต ดังนั้นพวกเราชาวพุทธทั่วไปสามารถกราบไหว้ บูชาท่านได้ในฐานะพระโพธิสัตว์ผู้ทรงฤทธิ์ มิได้ผิดแต่ประการใด
คาถาหัวใจพระพรหม ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า
“ พรหมาจิตตัง ปิยังมะมะ นะชาลีติ นะมะพะทะ นะมะอะอุ เมกะมุอุ”
ปัจจุบันศาลหรือวิหารพระพรหมมีอยู่ทั่วไป และเป็นที่นิยมในการกราบไหว้บูชา
ขอพร บนบานต่างๆเพราะมีความเชื่อว่าองค์พระพรหมสามารถลิขิตชะตาชีวิตของมนุษย์ได้ ท่านสามารถใช้คาถาหัวใจพระพรหมนี้ สวดบูชาพระพรหม ที่บ้าน อาคาร ตึก หมู่บ้าน คอนโด สำนักงานที่ทำงานหรือตามศาล เทวาลัยต่างๆ หากสวดบูชาอยู่กับบ้านก็ได้ เมื่อทำบุญทุกครั้ง
อุทิศกุศลให้ท่านด้วยยิ่งดี คาถานี้ภาวนากี่ครั้งก็ได้
จนจิตสงบ มีอานุภาพครอบจักรวาล ด้านค้าขายโชคลาภดีขอพร
ใช้เป็นคาถาเพื่อสื่อจิตกับท่านในการขอพร บนบานศาลกล่าวได้ พระคาถาของเสือมเหศวร (พระคาถาคงกระพัน แคล้วคลาด) " พุทธังคงหนัง ธัมมังคงเนื้อ สังฆังคงกระดูก พุทบังไฟ โธบังรูป
ธาปิดปากกระบอก ยะไม่ออก อุดโธ อุดโธ " ในเรื่องนี้ ทางเราเห็นว่าเป็นศาสตร์ที่ลี้ลับอย่างหนึ่ง จึงเอาขึ้นไว้ในหัวข้อคาถาอาคมมนต์ทุกชนิดบนเวบของเรา โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำการวิจัยศึกษาต่อไปอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ในเรื่องการปลุกพระเรามีประสบการณ์ และพูดไปตามประสบการณ์
และรอ ๆ ฟังคนอื่นว่ามีประสบการณ์มาอย่างไร การที่คุณตั้งประเด็นขึ้นนี้
นับว่าน่าขอบคุณมาก เอาละ โดยทฤษฎี การปลุกพระ
ทดสอบคุณวิเศษของพระเครื่องนั้น คือทดสอบพลัง
เป็นพลังเย็น เป็นนามธรรมก่อน แล้วนามธรรมนั้นเข้าครอบงำรูปธรรม
และแสดงพลังออกมาทางรูปธรรม คนจะปลุกพระ ประการแรกต้องมีสมาธิเป็นพื้นฐาน ถ้าไม่มีสมาธิอาจจะไม่ปรากฎผลอะไรเลย แต่ผู้ใดมีสมาธิดีจะปรากฎ จะทดสอบพลังของพระเครื่องได้ดี วิธีที่แนะนำไว้นั้น คือให้คาถาบริกรรมว่า นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ เราบอกว่า
เป็นคาถาปลุกพระ วิธีทำ เบื้องต้น ทำกาย จิต
วจีกรรมให้ผ่องแผ้ว บริสุทธิ์ แล้วอธิษฐานนั่งสมาธิ เอาพระเครื่องใส่ในมือหลวม ๆ สบายสบาย
เดินสมาธิ(คือให้เกิดความปกติทางจิต อย่าให้วอกแวก
ขึ้น ๆ ลง ๆ ให้ราบเรียบและเดินไปในปกติอยู่เช่นนั้น)ช้า ๆ แล้วเริ่มบริกรรมช้า ๆ ก่อน นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ
ว่าไปเร่อย ๆ ทำใจสบาย ๆ แล้วจะเริ่มเคลิ้ม ตรงนี้หมายถึงจิตกำลังเข้าภวังค์ และจะไปเชิ่อมกับคุณวิเศษภายในพระเครื่อง ให้รักษาสติไว้ คือรู้ตัวว่าอยู่ในอาการเคลิ้มนั้นและให้ดำรงสภาวะเคลิ้มนั้นเดินสมาธิต่อไป พลังจากพระเครื่องก็จะแผ่มาเชื่อมเข้าในระหว่างนี้แหละที่บริกรรมอยู่ช้า
ๆ ก็จะเร่งเร็วขึ้น ๆ ระวัง ต้องรักษาสติให้รู้ตัวอยู่ให้ได้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่ แล้วมือจะสั่นขึ้น เกร็งและกำพระเครื่องแน่นขึ้น
ต่อไปมือจะโยก ขึ้นลง ขึ้นลง ขึ้นลง เหงื่ออาจจะออกมาท่วมมือ
หรือรักแร้ หรือขุมขนทั่วไป แค่นี้ก็คงเพียงพอแล้ว
เพราะพลังแสดงออกมาให้เห็น พอสังเกตได้ด้วยสติสตังของเราเองว่าพลังขนาดใด ควรจะพอ หยุด หากมิเช่นนั้น
พลังจะแสดงเกินไปกว่านี้ ตัวจะร้อน และการโยกจะแรง
ต่อไปก็จะยงโย่ขึ้นโยกขึ้นโยกลง และที่สุด ต้องเคลื่อนตัวเอง ถ้าเสียสติ ควบคุมสติไม่ได้แล้วก็จะเตลิดวิ่งไป เพราะนิ่งอยู่ไม่ได้แล้ว ต้องเคลื่อนไปตามอำนาจพลังนามธรรมที่มาแทรกคุมรูปธรรม
คือกายของเรา ตอนนี้เพื่อน ๆ ที่อยู่ด้วยต้องเข้าปล้ำควบคุมตัวไว้เอาพระเครื่องออกจากมือ ก็จะหยุด ก็คงเพียงพอสำหรับการทดสอบคุณวิเศษของพระเครื่อง ๆ ขอให้ทำการบันทึกผลการทดลองกับพระเครื่ององค์อื่น ๆ ไว้ด้วย
และอีเมลมาให้ทราบบ้าง จะ ห้า อาวุธมาเป็นห่าฝน
มิได้เข้าใกล้ตนประสกพ้น อันตราย
คาถาเบิกไพร (เวลาหลงป่า ของหลวงพ่อโชติ วัดตะโน)
ตั้งนะโม 3 จบ สำรวมจิตให้แน่วแน่
ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วจึงอันเชิญมาเป็นที่พึ่ง
รำลึกถึงเจ้าป่าเจ้าเขาเทวดาอารักษ์ผู้รักษาป่าให้เปิดทางให้อกอกจากป่าได้จึงท่องคาถาว่า
“นะ แล
แล ปะแอยันติ”
หลวงพ่อโชติท่านใช้ในการเบิกไพรได้ทุกครั้งที่หลงทางโดยหลับตาภาวนาให้แน่วแน่จึงลืมตาขึ้นเพื่อเห็นทางออก
จะมองเห็นได้ในทันที แม้ไม่เห็นทางออกก็จะมีเสียงนกหรือเสียงสัตว์ร้อง
ให้ตามเสียงไปเถิดจะพบทางออก
เหมาะสำหรับพรานหรือผู้ชอบเดินป่าไว้ใช้เวลาคับขันให้ใส่บาตรพระหนึ่งองค์
กรวดน้ำ ให้หลวงพ่อโชติ วัดตะโน เริ่มเรียนวันพฤหัสบดี
คาถาตวัดฟ้าป่าหิมพานต์
“ภะ
สัม สัม วิ สะ เท ภะ ภะ”
เมื่อเข้าตาจนจะตีฝ่าศัตรูออกไป
ให้ภาวนาในใจจนเกิดพลังอุ่นๆ พุ่งจากลิ้นปี่ไปทั่วร่างกาย
รู้สึกว่าตัวเองพองขึ้น ขนลุกไปทั่วตัว
จึงถืออาวุธวิ่งเข้าหาแล้วตวาดด้วยเสียงอันดังสุดเสียง มีกี่หลอดก็ใส่เข้าไป จะเป็น
ว้าก , เพ้ย,มึงตาย..ย หรืออย่างอื่นแล้วแต่จะถนัด
ฟันแทงตีลุยเข้าไปภาวนาไว้อย่าหยุด ศัตรูจะอัปราชัย
ส่วนตัวเราหักด่านออกมาได้ในที่สุด
คาถาคงกระพันชาตรี (เสกข้าวกิน 3 คำแรกทุกมื้อ)
“นะ มะ
พะ ทะ คงเนื้อคงหนังคงกระดูกผูกด้วย พะ ทะ นะ มะ”
ทำได้ทุกวันทุกมื้อรับรองได้ว่าเนื้อหนังจะคงกระพันไปจนถึงกระดูก
เสกไปกินไป อย่าลืมเสียก็แล้วกันว่าเสกแค่ 3 คำแรกเท่านั้น
คาถาบูชาหลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก ก่อนใช้จุดธูป 9ดอก บอกเล่าอธิฐานถึงท่าน
ทำด้วยจิตเคารพศรัทธาที่สุดที่จะทำได้ จะเห็นผลไว
ว่านะโม 3 จบ
นะโมพุทธายะ จิเจรุนิ พุทธะ สังมิ นะชาลิติ
ภาวนาไปเรื่อย
นึกถึงท่าน เงินไม่ขาดมือ หากขอแล้วสมหวัง
ก็ทำบุญ สร้างกุศลถวายท่าน
คาถามหาคงกระพันชาตรี (จากรายการสองยาม
อ.ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)
1.ตั้งนะโมสามจบ
2.อิติปิโสพันเกศา
ภะคะวา พันสันพาวุธ พุทโธอุด ธัมโมอุด สังโฆอุด พระพุทธังห้ามสัพพะอาวุธ
หยุดด้วยพระพุทโธ นะโมพุทธายะ
3.ก่อนออกจากบ้านให้ท่องพระเวทนี้สามจบ
เป่าลมลงฝ่ามือ ลูบตั้งแต่ศรีษา ไปจนจดปลายเท้า จะเป็นเกราะเพชรป้องกันตัว
คาถาขุนแผนหน้าทอง ใช้เสกแป้งผัดหน้า เสกน้ำมันหอมทาตัว ไปทางใดใครเห็นหน้าก็เมตตา (จากรายการสองยาม
อ.ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)
เมกะ มุอุ อุมุกะเม
กะเมอุมุ มุกะเมอุ
เสก 16 จบ เวลาเสกแป้ง เทแป้งใส่อุ้มมือซ้าย
ใช้ปลายนิ้วชี้ขวา จิ้มแป้ง วนขวาภาวนาวน ไปจนครบ 16 จบ
จึงขยี้แล้วผัดหน้า
น้ำอบน้ำหอมใฃ้เสกขวดก่อนใช้
แล้วทำบุญใส่บาตร ให้ ลพ.ขัน วัดนกระจาบ ในวันพฤหัสบดี จึงเริ่มใช้พระคาถา
คาถามหากำบัง(พระเจ้าซ่อนหัว) ของ
ลพ.เดิมวัดหนองโพธิ์ (อ.ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)จากรายการสองยาม
นะ ห้าม โม ปิด พุท
มิดหัว
ธา ล้อมตัว ยะ
ซ่อนหัว หายตัวนะบัดนี้
นะ จงงง โม จังงัง
พุท กำบัง
ธา ละลาย ยะ สูญหาย
อนัตตา สูญเปล่า
คาถาพุทธนิมิต (หลวงพ่อจง วัดน่าต่างนอก)
พุทโธ พุทธัสสะ
อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง อิมังกายะพันธานัง อธิษฐามิ
พุทโธ พุทธัสสะ
อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง อิมังกายะพันธานัง อธิษฐามิ
พุทโธ พุทธัสสะ
อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง อิมังกายะพันธานัง อธิษฐามิ
เสก 3 จบเป่าลมลงบนฝ่ามือทั้งสองข้าง
ยกขึ้นลูบศีรษะจะเกิดความคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดตามแต่อธิษฐานก่อนลูบศีรษะ
คาถาป้องกันคุณไสย (หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม)
นะมะ นะอะ นอกอ นะกะ
กอ ออ นออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตตัง สุนะพุทธังอะสุนะอะ นะทะลวง โมทะลาย
พุทกำจัด ธากำจาย ยะสูญหาย สรรพคุณไสย อัปปะราชะยัง
เสกน้ำทำน้ำมนต์สวด 16 จบใช้เทียนสีผึ้งแท้หนัก 1
บาท จุดวางพาดปากขันน้ำมนต์ พอสวดจบที่ 16 ให้จุ่มเทียนลงไปในขันน้ำมนต์ให้เตรียมต้นข่าทั้งต้นมัดรวมกัน
3 ต้น จุ่มน้ำมนต์พรมคนถูกคุณไสย หากแสดงอาการฮึดฮัดต่อสู้ให้ใช้ต้นข่าตีแล้วเอาน้ำมนต์รดลงไปบนหัวจนกว่าจะสงบ
จะได้ผลหรือไม่อยู่ที่จิตของผู้ทำน้ำมนต์ หากจิตมั่นคงและเชื่อถือแล้วจะขลังนัก
(ทำสำเร็จอย่าลืมใส่บาตรอุทิศกุศลให้หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้องด้วย)
พระคาถาแคล้วคลาด คาถายอดมงกุฏ (จากรายการสองยาม)
ภาวนาเวลาฝ่าอันตราย เอานิ้วชี้ สองนิ้ว
แตะหน้าผาก แล้วลากเส้น สองข้างไปจบกันหลังศรีษะ
ภาวนาว่า
พุทธังสัง
มังคะลังโลเก ให้เอานิ้วชี้สองข้างมาจดตรงลิ้นปี่ แล้วลากเส้นไป จนหลังศรีษะ
ภาวนาว่า
ธัมมังสัง
มังคะลังโลเก ให้เอานิ้วชี้สองข้างมาจดตรงสะดือ ลากเส้นไปจดกันข้างหลังที่เป็นกระเบนเหน็บ
ภาวนาว่า
สังฆังสัง
มังคะลังโลเก จึงเอานิ้วชี้สองข้างจดกันที่หน้าผากอีกครั้ง
แล้วลากเส้นผ่านสันจมูก ลงไปที่
ปลายคาง ไปที่คอหอย
ลากผ่านมาที่รูสะเดือ
ภาวนาคาถาว่า
พุทธังสังมิ อิติปิโส
นะโมพุทธายะ อุดอัด ปัดปิดผิด ปะฏิสังขาโย
ทำได้ทุกวันก่อนออกจากบ้าน จะคลาดแคล้วจากอันตรายทั้งปวง
ใส่บาตรวันพฤหัสบดี
อธิษฐาน อุทิศให้ อาจารย์ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม เสือปลั่ง
และครูบาอาจารย์เจ้าวิชา
พระคาถาสะกด (ของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ)
จากรายการสองยาม
อักขระยันตัง
สันตังวิกะรึงคะเร สัพเพเทวา ปีศาเจวะ กรึงตรึงแน่นแผ่นปฐพี อะปะรายันติ
วิกะรึงคะเร วิกะรึงคะเร วิกะรึงคะเร
คาถาภาวนาหัวใจหมี (จากรายการสองยาม)
เมื่อจะเข้าต่อสู้ให้ปลุกใจ
ปลุกความกล้าให้มีพลังเพิ่มขึ้น สะ สิ มิ ระ ฝอยท่วมหลังช้าง
ใช้ได้ตามแต่ปรารถนา ที่จะใช้ จะเรียนพระคาถา ให้เลือกวันพฤหัสบดี เลือกตักบาตร
ให้ อ.ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องามและเจ้าของคาถา
คาถาโองการ ปลุกเสกแม่โพสพรอด (รายการสองยามตอนพระกินเณร)
จัดดอกไม้ธูปเทียน ของ ลพ.เดิม
นะโม 3 จบ
โอมนมัสการ ข้าขอให้ พระพุทธคุณณัง
พระธัมมะคุณณัง พระสังฆะคุณณัง บิดาคุณณัง มารดาคุณณัง
ข้าจะขอนมัสการครูบาอาจารย์เสร็จ ข้าจะเชิญพระสรรเพชรเสด็จอยู่เหนือเกล้า
เหนือผม ขอเชิญพระพรหมมาเป็นตาซ้าย ขอเชิญพระนารายณ์มาเป็นตาขวา
ขอเชิญพระแม่คงคามาเป็นน้ำลาย ขอเชิญพระพายมาเป็นลมปาก ขอเชิญพระโองการมาเป็นหัวใจ
ข้าไซร้จะปลุกเสก (พระโพสพรอด)ด้วยพระคาถา อาจาริโย ปัญญาวุฒโธ สิทธิ อาจาริยะ
สะพุธโธโรกะสะปุริ สะธรรมมะ มะมะยะมะราชะโน สุคะโต อะระหัง สัพพะปาปะกัง กะระณัง
วิยะยะทา กันหะเนหะ อิกะวิติ พุทโธ ท้าวเวสุวรรณโณ อะระหังตัสสะ คะเตสิก คะเตสิก
กิงกะระณัง พระอะระหังปิดทวารทั้ง 9 นะอุดโมอัด พุทธัสสะกัส ธาปิด มิดชิด เอกะณา
มะกิง กิงกะระณัง พระอะระหังปิดทวารทั้ง9 ปุเร ปุเร ปุเร
มารัง ปุรังมามิ โหตุ สัมภะโว
พระคาถาคลาดแคล้ว ของหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง จากรายการสองยาม
อรหังพุทโธ
นะโมพุทธายะ นะอัด โมอุด พุทหยุดดินปืน ธาปิด ยะพระพุทธเจ้าแผลงฤทธิ์ พุทผัดผิด สวาหะ
คาถาหัวใจหนุมานตัวเดิม “หะ นุ มา นะ คลุกคลี ตีมะอะ”
ใช้ทางคงกระพัน และไม้สองคือเมื่อถูกตีล้มลงไป
ศัตรูที่ไม่รู้ว่าใช้หัวใจหนุมานเป็นไม้สองก็จะตีซ้ำพอถูกตีซ้ำจะทะลึ่งลุกติดไม้ขึ้นมา
คราวนี้ตีเท่าไหร่ก็ไม่ล้มแหลกกันไปข้าง ถ้าต้องการวิ่งเร็ว เปลี่ยนเป็น "โอมหะ
นุ มา นะ พระพายสวาหะ”"อ.ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม
พระคาถาดำเนินสะดวก ขุนพันธรักราชเดช สวดก่อนเดินทาง ไปไหนมาไหน เดินทางแคล้วคลาด
นะโม3จบ
มหาตาวิริเยเนปิ
มหันตังปาระมี อะฤามนุษสะเทเวหิ ภัมเมหิ มะหิ ตันตัง นะมามิหัง
สวด19 จบ
ภาวนาคาถากระทู้เจ็ดแบกว่า
“อิ
ระ ชา คะ ตะ ระ สา อิ”
เป็นคาถาสุดยอดแคล้วคลาด
(ข้อมูลจาก นักเลงโบราณตำนานคนหนังเหนียว)
สำหรับพระคาถาต่างๆที่เคยลงในบทความในเพจทั้งหลายใครอยากจะเรียนก็เรียนได้นะครับแต่แนะนำให้ใส่บาตรวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นวันครูเหมาะแก่การเรียนวิชาอาคมต่างๆ
เมื่อใส่บาตรแล้วก็นึกอธิษฐานอุทิศส่วนกุศลให้อาจารย์ไพฑูรย์และครูบาอาจารย์เจ้าของวิชาเพื่อขอประสิทธิ์วิชาจึงจะใช้ได้หากไม่ขอประสิทธิ์จะไม่มีแรงครูคอยช่วยเหลือสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีสมาธิจิตขั้นฌาญ และหากตั้งจิตขอยึดถือในข้อศีล๕ข้อใดข้อ๑ไปตลอดชีวิต
พระคาถาต่างๆที่ขอประสิทธิ์จะขลังนักแล
หากใครจะยึดถือมากเกินกว่า๑ข้อขึ้นไปก็ได้ตามแต่กำลังจิตกำลังใจของท่านความขลังความอาถรรพ์ในอาคมก็จะเพิ่มตามกำลังศรัทธาที่ท่านยึดมั่นในข้อศีลที่ได้ตั้งสัจจะไว้
หากท่านใดจะเลือกขอประสิทธิ์วิชาด้วยการยึดถือในข้อศีลข้อใดข้อหนึ่งเเล้วท่านต้องยึดถือให้มั่นไปตลอดชีวิต
มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการผิดครูได้พระคาถาที่ภาวนาท่องบ่นจะไม่เกิดฤทธิ์ตามที่ควรเมื่อท่านใช้
การเรียนวิชาอาคมสมัยก่อนต้องรับขันธุ์ครู
เพื่อขอประสิทธิ์จากครูบาอาจารย์โดยตรงแต่สมัยนี้จะหาเกจิย์อาจารย์หรือฆราวาสที่มีวิชาอาคมขลังๆนั้นยากนักและผู้ที่จะมีจิตแกร่งพอที่สามารถจะเรียนอาคมได้ยิ่งหายากกว่า
มีแต่ต้องขอประสิทธิ์โดยวิธีดังกล่าววิชาถึงจะขลัง
คาถาป้องกัน ปีศาจ ผีตายโหงที่ดุร้าย หากเกิดความกลัว ภาวนา
พุทธัง สังมิ
เรื่อยไปจนเกิดพลังอุ่น
ขึ้นมาจากท้องน้อย จนทั่งตัว คราวนี้ให้สวดพระคาถานี้ 3 จบหรือจนกว่าจะหายกลัว
พุทโธ พุทธัง
นะกันตัง อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ
สัพเพเทวา ปิศาเจวะ
ปิจะ ขัตตะคัง ตะละปัด ตังทิสวา สัพเพยักขา ปะรายันติ
ข้อมูลด้านล่างนี้ นำมาจาก เพจ นักเลงโบราณตำนานคนหนังเหนียว อ.ไพฑูรย์
พันธ์เชื้องาม
คาถาวิชาเสือสมิงของ ลพ.พระสะอู
ปลุกใจด้วยพระคาถาดังนี้
โอมพยัคโฆ โส พยัคฆา ปิ พยัคเฆติ พยัคฆัง อิ พยัคฆี อิติปิโส นะโมพุทธายะ
โอมพยัคโฆ จะ
โสปิติอิ ฮึ่ม ฮึ่ม
สักเสือเหนือใต้ใช้ได้ทุกสำนัก
ถ้าไม่มีเขี้ยวเสือ หรือเขึ้ยวหมู ติดตัว ก็ใช้ได้
ทำใจให้มั่นพลันเห็นผลทุกรายไป
คาถาคัดของ
พุทธัง ปัจจะขามิ
ธัมมัม ปัจจะขามิ สังฆังปัจจะขามิ มะเปิด อะเปิด อุทะลวงล้วงเปิด
ด้วยนะโมพุทธายะ
พระคาถาคัดของ
นามะรูเปิด นามะรูปัง
ลงตอนท้ายคำว่าปัง
ให้เหนี่ยวไกปืนพร้อมกัน
คาถากำแพงแก้วเจ็ดชั้นเต็มรูปแบบ
พุทธัง สัตตะรัตตะนะ
มหาปะการรัง อัมหากัง สะระณังคัจฉามิ
ธัมมัง สัตตะรัตตะนะ
มหาปะการรัง อัมหากัง สะระณังคัจฉามิ
สังฆัง สัตตะรัตตะนะ
มหาปะการรัง อัมหากัง สะระณังคัจฉามิ
สุสุ ละละ ทาทา โสโส
นะโมพุทธายะ พุทโธ พระบัง ธัมโม
พระบัง สังโฆ พระบัง
การกำหนดปริมณฑล ให้หยิบก้อนดินขึ้นมาภาวนา
คาถาละ 1 จบ
แล้วขว้างไปในทิศทางทั้งสี่ทิศ
เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมผ่านก้อนหิน
ที่อธิษฐาน
เป็นกำแพงแก้วไว้ ผู้ที่ทำกำแพงแก้วไว้จะสะดุ้งตื่น
หรือจะกำหนดจิตเป็นทักษิณาวัตรก็ได้
คาถาพระยาสีหราชเดโช
ตะมัตถัง ปะกาเสนโต
ตัวกูคือ พระยาสีหราชเดโช นะโมพุทธายะ
ให้ท่องคาถาเป่าใส่ฝามือใช้ผัดหน้าเหมือนแป้ง
ใช้ประจำจะมีอำนาจในตัว
เวลาตวาดใคร มันผู้นั้นจะตกใจลนลานมองเห็น
เราว่ามีดวงตาเป็นประกายจ้า
เหมาะสำหรับ ผู้ที่ปกครองคนหรือผู้ที่คุมคนหมู่มาก
คาถาพระคุณบิดาป้องกันภัย ลป.ภู จันทเกสโร วัดอินทรวิหาร
โอพ่อ โอภา โอมา มามิ
มาพ่อ
ก่อนนอนที่บ้านหรือที่ไหนๆ
ให้สวด9 จบน้อมระลึกถึงพระคุณบิดา
คาถาเสกข้าว (อาพัดข้าว)
ใช้เวลากินข้าว 3 คำแรก พอตักข้าวใส่ปาก
ก็ภาวนาในใจทันที
อัตตะ ทีโต
นะโมพุทธายะ
เคี้ยวไปภาวนาไป
จนกลืนข้าวเข้าคอ พอตักคำทีสอง เคี้ยวก็ภาวนาในใจ
ทันที
เคี้ยวไปภาวนาไปจนกลืนข้าวลงคอ ตักคำที่สามเคี้ยวภาวนาในใจทันที
ภาวนาจนกลืนข้าวลงคอ
จากนั้นก็หยุดภาวนา เป็นการป้องกันไว้ก่อน เมื่อเกิดเรื่องราวจะได้
หนังคงกระพัน
เป็นคาถาที่เสือร้ายในอดีตใช้อาพัดเหล้าแทน
พระคาถาปลุกอักขระเครื่องรางของขลัง ของ ลพ.เดิม วัดหนองโพธิ์ จากรายการสองยาม
ภาวนา 3-5-7-9 จบแล้วแต่สะดวก
ถ้าจะเข้าต่อสู้ให้ตบพวงพระ ภาวนาคาถาให้มั่นใจ
พุทธะบูชา ธรรมมะบูชา
สังฆะบูชา ปฏิหาริโย อักขระยันตัง สันตัง วิกะรึงคะเร
เวลาสวดให้เพ่งจิตไปที่พวงพระหรืออักขระที่สักไว้ตามตัว
ถ้าจิตเป็นหนึ่งจะรู้สึกตัวหนาขนลุก
และเกิดความเหี้ยมหาญในใจ
ขึ้นมาทันที เมื่อเวลาคับขัน ให้เอามือตบ อก ตบพวงพระให้ดัง ปึกๆๆ ร่ายหัวใจ ว่า
อักขระยันตัง สันตัง วิกะรึงคะเร
คาถาประกาศิต พระร่วง อ.ไพฑูรย์
อิมัง สัจจะวาจัง
อธิฐามิ ทุติ อิมัง สัจจะวาจัง อธิฐามิ ตะติอิมัง สัจจะวาจัง อธิฐามิ
คาถาไล่ปีศาจ อ.ไพฑูรย์
คุณพ่อช่วยข้า
มารดาอยู่หลัง คุณพ่อช่วยข้า มารดาระวัง อิติปิโส สะอะ
สัมพะโว อิติปิโส
สะอะ ธรรมโม อิติปิโส สะอะ สังโฆ อิติปิโส สะอะ พุทโธ
พุทโธ
ท้าวเวชสุวรรณโณ อิติปิโสสะอะ
คาถาคลาดแคล้ว
อิ สวา สุ
ภาวนา ตอนฟันดาบ
ฝึกกระบี่กระบอง อ.ไพฑูรย์ แนะนำมา
พระคาถากำบังกาย ของ ลพ.โชติ วัดตะโน
ก่อนใช้พระคาถา
ต้องเด็ดใบไม้หรือกิ่งไม้ หักมาวางไว้บนศรีษะและภาวนาคาถาว่า
พุทธะบังจิต
พุทโธบังกาย พุทธาเร้นหาย รูปะขันโธ เวทนาขันโธ สัญญาขันโธ
สังขาราขันโธ
วิญญาณขันโธ อิติปิโส อนัตตา
ภาวนาไว้จนมั่นใจ
คาถาเบิกไพร (หากหลงป่า) ของ ลพ.โชติ วัดตะโน
โดยนั่งยองๆ
เอามือป้องหน้า เหมือนกำลังดูทางออกแล้วภาวนา
นะแอแอปะแลยันติ
พุทเปิด โธเปิด พระพุทธเจ้าเลิศล้ำ เปิดโลกา
หุลู หุลู หุลู สวาหะ
ภาวนาให้มั่น
ป้องหน้าไปในทิศต่าง ก็จะเห็นทางออกเจ้าป่า เจ้าทุ่งจะเปิดทาง
ให้ออกไปจนได้
คนหายในป่า ค้นหาไม่เจอ ให้ตั้งศาลเพียงตา เหล้า 1 ไห
เทจากขวดใส่ไห)
ไก่ต้ม 1 คู่
จุดธูปบูชาแล้วออกค้นหาจะพบคนที่ต้องการ
คาถาอาพัดหมากพลูบุหรี่ อ.ไพฑูรย์
พันธุ์เชื้องาม จากนักเลงโบราณ ตำนานคนหนังเหนียว
เมื่อจะกินหมากก็เสกหมาก
กินพลูก็เสกพลู เพื่อให้เกิดความคงกระพันชาตรี
ตามตำราว่าเสกครบหนึ่งปีมิให้ขาดจะคงกระพันถึงกระดูก ตีเท่าใดก็ไม่แตกไม่หักแล
“นะตันติ โมตันโต นะโม ตันตัน”
เรียกว่า “นะโมตาบอด” สักอักขระไว้บนตัวเป็นมหาอุดเป็นคงกระพัน เสกข้าว เสกน้ำ เสกหมาก เสกพลู
เสกสารพัด เสกข้าวกินสามคำแรก เสกหมากกินคำหนึ่ง เสกพลูสามใบเคี้ยวกิน
เสกน้ำกินสามอึก อีกละจบ
เสกหมากฝรั่งก็ได้เคี้ยวไปเสกไปจนจืดทำได้หนึ่งปีมิให้ขาดท่านว่าคงกระพันถึงกระดูกเลยทีเดียว
คาถาสบเนตรสตรี
เป็นคาถามหานิยม
ได้จากอาจารย์สม ฉายาเมียเต็มครัวได้มอบให้ตั้งแต่เป็นหม่อมหลวงวรรณวิน(อ.ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)
“นะตรึงจิต โมตรึงใจ
พุทหวั่นไหว ธาละลาย ยะหลงใหล สะสิมิระ”
พอสบตาให้เริ่มภาวนาในใจไปเรื่อยๆ
สตรีผู้นั้นจะเหมือนไม่รู้ตัวเพราะต้องมนต์
เข้าไปพูดจาทักทายได้เหมือนคนรู้จักกันท่านบอกไว้ว่า สตรีผู้ใดต้องมนต์แล้วเกิดได้เสียต้องเลี้ยงดูเขาทุกคนไป
ถ้าไม่ต้องการจะได้เป็นเมียแล้วอย่าใช้
เพราะหากได้ผลแล้วไม่เลี้ยงดู พระอาจารย์ท่านบอกว่าเป็น “คะลำ” ไม่พ้นอายุ
50 ปีจะเป็นคนสติวิปลาสไปจนตายหมอเก่งแค่ไหนก็รักษาไม่หาย
แต่ถ้าเขาหมดบุญจะอยู่ด้วยอย่าทำให้ใช้เพียงคนเดียว
พระคาถาที่ใช้นำพระคาถาบทอื่นๆ เพื่อเพิ่มความขลัง
รวบรวมจาก บทนำพระคาถาจาก (อ.ชุม ไชยคิรี+อ.เทพ สาริกบุตร+โดยนำมาเรียบเรียง)
จาก ธนะสิทธิ์
นั่งพนมมือ
กำหนดลมหายใจ เข้านึกว่า พุท หายใจออกนึกว่า โธ พอจิตสงบ
แล้วให้ทำความเคารพต่อองค์พระพุทธเจ้า ว่านะโม 3 จบ แล้วว่า
พุทธัสสะบูชา
ธัมมัสสะบูชา สังฆัสสะบูชา ปฏิบัติบูชายะ แล้วว่า อรหังสัมมาสัมพุทโธ ภควา
พุทธัง ภะคะวันตังอภิวาเทมิ กราบหนึ่งครั้ง แล้วว่า สวากขาโตภควาตาธัมโม
ธัมมังนะมัสสามิ กราบหนึ่งครั้ง สุปฏิปันโนภควโตสาวกสังโฆ สังฆังนะมามิ กราบหนึ่งครั้ง แล้วว่า
โองการพินธุนาถังอุปปันนัง พรหมาสะหะปะตินามะ
อาทิกัปเป สุอาคะโต
ปัจจะ ปะทุมัง ทิสวา
นะโมพุทธายะ
วันทะนัง
อัคโคหะมัสมิง
โลกัสมิง
เสฏโฐ เชฏโฐ
อะนุตโร อะยะมันติมา
เมชาติ นัตถิทานิ ปุนัพภะโวติ
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง
สิทธิการิยะ ตะถาคะโต
สิทธิเตโช ชะโยนิจจัง
สิทธิลาโภ นิรันตะรัง
สัพพะ กัมมัง
ประสิทธิิเม
สัมพะสิทธิ ภะวันตุเม
อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ นะชาลีติ
นะมะนะอะ นอกอนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ
5จบ
เมื่อจบลงครั้งหนึ่งหายใจเข้ายาวพร้อมด้วยนึกว่า พุท
แล้วกลืนน้ำลายลงไปหนึ่งครั้ง
จนครบ 5 จบ
ทำทุกวันตามตำราไสยศาสตร์บอกไว้ว่าใช้ได้ 108 ตามความปรารถนา
พระคาถาบทมูลฐานมีเพียงเท่านี้ที่ควรท่องจำ
ต่อไป ก็ท่องพระคาถาบทอื่น ที่เราชอบและสนใจ
คาถาเรียกพลัง อาพัดน้ำลายกลืนเขาไป อ.ไพฑูรย์
โอม อม ลมพระพาย พัดมาพัดไป กลายเป็นพายุ มะอะอุ อุอะมะ สวาหะ
สวาหาย พระพายช่วยลูกด้วย
คาถาป้องกันฟ้าผ่าและระเบิด อ.ไพฑูรย์
อากาเสจะ ทีปังกะโร นะโมพุทธายะ มะอะอุ อุอะมะ ยะธาพุทโมนะ
ก่อนออกเดินทางให้ตั้งนะโมสามจบ แหงนหน้าหน้า
เดินทางไปทางทิศที่จะไป จากนั้นภาวนาคาถา 9 จบ เวลาผ่านสถานที่
อันตรายจากฟ้าผ่าหรือระเบิดมือ อาพีจี ระเบิดแสวงเครื่องให้ภาวนา
อากาเสจะ ทีปังกะโร ในทุกลมหายใจเข้าออก
คลาดแคล้วจากระเบิดและเกล็ดระเบิด
คาถาป้องกันงูพิษ แมลงพิษระหว่างนอนในป่า
วิรูปักเข เมเมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ ฉัพพะยา ปุตเตหิ เมเมตตัง
กัณหา โคตะมะเกหิ อะปาทิเกหิ
เมเมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ จะตุปปะเทหิ เมเมตตัง เมตตัง
พะหุปะเทหิ เมมามัง อะปาทโก หิงสิ มามังหิงสิ
ทิปาถะโถ มามัง จะตุปโท หิงสิ มามัง หิงสิ พะหุปโท สัพเพปาณา
สัพเพภูตา จะเกวลา สัพเพภัทรานิปัสสันตุ
มากิญจิ ปาปะคะมา พุทธัง ธัมมัง สังฆัง อะปามาโณ มังรักขันตุ
สัพพะทา
สวดกำหนดจิต เวียนขวา หรือใช้กิ่งไม้ขีด ป้องกันสรรพสัตว์ งูพิษ
ผีกองกอย แมลงกัดต่อย
พระคาถานะ ตลอด
นะอิติริทิ นะทะสะนะมิ พะทะนะมะ นะมะพะทะ ทะนะมะพะ
นะตลอดแก้วหาค่ามิได้ ทำผงทาตัว(เหมือนลม)ลมไปได้ เราก็ไปได้
ตามจิตจะตั้งอยู่ไปใช้108
คาถาฤาษีเบิกไพร
กัณหะ เณหะ กัณเปิด หะเปิด สวาหะ ภูภิภูภะ สวาหะเปิด
ระเบิดที่ปิด
กัณหะเณหาคือคาถาหัวใจโจร ส่วน ภูภิภูภะคือหัวใจเสือคน ถ้าจะเสก
ก้อนหินปิดชุมโจรให้เปลี่ยนคาถาเป็น
กัณปิด หะปิด เณปิด หะปิด สวาหะฤทธิ์ ปิดด้วย กัณหะ เกณหะปิด
คาถาประจุขาดตัวผู้และตัวเมีย ใช้ตัดอาคมคนหนังเหนียวได้ ของ ขรัวพุทธ
วัดสังกระจายและท่านวัดกุฎีสูง
พุทธัง ปัจจะขามิ พุทธัง ปัจจุทรามิ ธัมมังปัจจะขามิ
ธัมมังปัจจุทรามิ สังฆังปัจจะขามิ สังฆังปัจจุทรามิ
ใช้ทำน้ำมนต์แก้คุณผีคุณคนดลคาถา แก้ฝังป่าช้า หนทางสามแพร่ง
ถ้าจะรดทำน้ำมนต์ ค่าเทียน 1 บาท ขวัญข้าว 6 บาท เสก 17
คาบ
คาถาสะเดาะห์กุญแจ อ.ไพฑูรย์ (น่าจะเป็นพระคาถาบท
หนึ่งในพระเวทสังข์ถ่วง)
จะ ภะ กะ สะ
เอากุญแจแขวนไว้ในที่ราวเชือก จากนั้น ใช้สายตาเพ่งไปที่ลูกกุญแจ
ภาวนาคาถาให้จิตนิ่ง เป็นสมาธิ ให้เกิดพลังอำนาจ จิตรวมเป็นหนึ่งเดียว
แล้วเป่าลมออกไปที่แม่กุญแจ จะหลุดทันที หากจิตนิ่งรับรองแม่กุญแจจะหลุดทันที
เมื่อจะใช้ให้ระลึกถึง คุณพระรัตนตรัยให้มั่น ไม่ต้องยกมือพนม ให้ระลึกในใจว่า
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง
คัจฉามิ
ดวงจิตของข้าพเจ้าของถวายต่างดอกบัว
จากนั้นก็ระลึกถึงหลวงพ่อเดิม พุทธสโร ดวงจิตของข้าพเจ้าน้อมกราบต่างดอกไม้บูชา
เวลาภาวนาคาถา ก่อนลงผิวน้ำ ให้ภาวนาในใจอย่าหลับตา
ภาวนาคาถาสะเดาะห์กุญแจสังถ่วง โซ่ตรวนจะหลุดทันที ตัวเบาก็จะลอยขึ้นให้ภาวนาคาถาขึ้นจากน้ำ
เพื่อกำบังตาคนที่คอยจ้องยิง
ด้วยพระคาถาพระเจ้าซ่อนหา ของหลวงพ่อเดิม
พระคาถาของ หลวงตาแหยม
สังวิธา ปุกะยะปะ (หัวใจพระธรรม 7 คัมภีร์)
ใช้เสกข้าวกินเจ็ดคำแรก ทำให้ทุกวันกันได้ตลอดชีวิต
จะทำให้ร่างกายเกิดความคงกระพันชาตรี ตีไม่แตกกระดูกไม่หัก
การใช้พระเวทสังข์ถ่วงมี 7 บรรทัดดังนี้
1.โองการเชิญสิ่งศักสิทธิ์ ทั้งหลาย
2.เรียกคุณพระเข้าตัว และระลึกถึงคุณพ่อ คุณแม่
ครูบาอาจารย์
3.บอกและเชิญพระแม่คงคา
4.ว่าหัวใจเหล็ก
5.เบิกพระแม่คงคาขอทางผ่านและให้มาช่วยเหลือในยามจะถึงสิ้นชีวิต
6.ว่าพระเวทสะเดาะห์เครื่องพันธนาการทั้งหมด
เมือจมในน้ำก็จะหลุดออกโดยฉับพลัน
7.ว่าตัดดาวโจร
พระคาถาเสก หมาก พลู ของหลวงตาแหยม
นะมะพะทะ พะทะนะมะ
เสกหมากกิน เป็น คงกระพันชาตรี เคี้ยวจนหมากจืดจึงคาย
เสกไปภาวนาไป ป้องกันตัวได้ดีนัก
คาถาตัวลื่น จาก ตาควายคนแจวเรือจ้างท่าช้างวังหลวง
อ.ไพฑูรย์
สะสิมะระ
ภาวนาก่อนออกจากบ้าน เอามือลูบแขนขา ศัตรูมาทำร้ายมากกอดปล้ำ
ทำอันตราย ภาวนาไปเรื่อยๆ จะจับตัวเรามิได้ รู้สึกตัวลื่นเหมือนปลาไหล
คาถาอัญเชิญเทวดามาคุ้มตัวก่อนออกจากบ้าน
สัตถาเทวะมนุสสานัง
และใช้ฝ่ามือฝ่ามือลูกศีรษะไปถึงท้ายทอย
เมือกลับมาบ้านแล้วภาวนาว่า
พุทโธภะคะวาติ
คาถาเสกว่านกิน
อุอะมะตะโห จะอิสวา สุมัง สุสวาอิ นะโห จะนะ ทุสะมะนิ หัตถิ
นิสะมะทุ
เสกว่านกินคงทนนักแล
คาถากู้ว่าน
โอมกูจะปลุกพญาว่าน ให้ลุกก็ลุก กูจะปลุกพญาว่าน ให้ตื่นก็จงตื่น
อย่าวิ่งหนีไปที่อื่น
มาหากูนี่มา ขะโมย ขะโมย ขะโมย นะโมพุทธายะ
ฤดูว่านงอกหรือออกดอก
บรรดาว่านที่ถูกกู้ขึ้นมาจากดิน เมื่อเอาห่อเก็บไว้พอถึงเดือนหก
อันเป็นฤดูว่านงอก หรือออกดอก
ว่านทีเก็บไว้จะแตกหน่อขึ้นเอง โดยอัตโนมัติ
โดยไม่ต้องถูกดินหรือน้ำ ต้องรอเอาไปปลูกเดือนนั้นให้ตรง
กับวันอังคาร แต่ว่านจะแพ้ไก่ ห้ามไก่บินผ่านหรือบินข้าม
คาถากำกับเวลารดน้ำว่าน
ใช้ อิติปิโสบทแรก+นะโมพุทธายะ 3 ครั้ง
การปลูกว่านควรปลูกในวันอังคารเดือนหก เมื่อว่านออกดอก
ควรรับขวัญด้วยผ้าขาวแดง โดยผูกรอบกระถาง จุดธูป 3 ดอกและอธิษฐาน
ส่วนว่านที่ให้โชคลาภ เวลารดน้ำให้ว่าคาถา
มหาลาโภ ภะวันตุเม 7 จบ
ส่วนว่านมหานิยมให้ว่าคาถาดังนี้
นะเมตตา โมกรุณา พุทปรานี ธายินดี ยะเอ็นดู นะโมพุทธายะ 3 จบ
ส่วนการกู้ว่าน ให้กู้ ในวันอังคารเดือน12
คาถากำแพงมนต์
พุทธัง สัตตะรัตนะปะการัง ธัมมัง สัตตะรัตนะปะการัง สังฆัง
สัตตะรัตนะปะการัง
อัมหากัง สะระณัง คัจฉามิ สุสุ ละละ ทาทา โสโส นะโมพุทธายะ
พุทโธ พระบัง ธัมโม พระบัง สังโฆ พระบัง
หลับตาเพ่งจิตไว้ตรงหน้าแล้วเพ่งจิตให้คล้ายเดินวนขวา 3 รอบ จึงกราบลง บนพื้นดินวนขวา
3 รอบ จึงกราบลง บนพี้นดิน อำนาจแห่งกำแพงมนต์ เมื่อมีศัตรู
ที่ได้ใช้จิตวนเอาไว้เหมือน เดินชนกำแพงมนต์ ผู้ที่สวดทำกำแพงมนต์
ไว้จะสะดุ้งตื่น เตรียมรอรับสถานะการณ์ได้ทัน
คาถาครุฑาบารมี หลวงพ่อฟัก วัดทำเลไทย อยุธยา
อะระหังครุฑ พุทโธ
อะคะโต อัสสะหมิง นาคะราชา อัปปราชะยา อัปเปหิ
อสรพิษนามะ สัพพะนาเค
สัพเพนาคี อะระหังครุฑโธ นะโมพุทธายะ
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง
สะระณังคะโต
เมื่อต้องเข้าป่ารก
ดงงู ดงตะขาบ แมงป่อง ให้หยุดยืนภาวนาคาถานี้ เพื่อปัดอสรพิษให้ปัด
ไปจากทางเดิน ด้วยอำนาจแห่งพระคาถานี้
จะทำให้รอด จากการเยียบงู จนถูกกัด
เมื่อจะนอนค้างแรม
ปักกลด ก่อนจะนอน หรือจำวัด ให้หากิ่งไม้ปลายแหลมมาขีดเป็นวง
ล้อมที่พักนอนเป็นวงกลม
ขณะขีดก็ภาวนาคาถา อย่าให้ขาด งู ตะขาบ แมงป่อง สัตว์มีพิษจะไม่
อาจเข้ามารบกวนได้เลย
คาถาทำให้ศัตรูหลงทาง
หาก้อนกรดมาสักสี่ก้อน
ภาวนา
นะโมพุทธายะ นะเวียนเวียน
โมวนวน พุทธเวียนวน ธาวนเวียน
ยะสับสน วนด้วย
ยะธาพุทโมนะ
ปาออกไปรอบสี่ทิศทาง
คาถาธนูมือ อ.ไพฑูรย์
อิ จะ ฉะ
คาถาระงับโกรธ
เวระปฏิเวรัง
พุทธปาหัง วันทามิ
(เวรย่อมระงับด้วย
การไม่เวร ถวายเป็นพุทธบูชา แทบเท้าพระบรมศาสดา)
เปรียบประดุจเอาน้ำเย็นสาดลงไปในกองไฟ
จะเกิดความเยือกเย็น ความโกรธจะค่อยๆ ละลายหายไป
คาถาพระแม่ธรณี ของ เสือผาด ทับสายทอง
เม อะ มะ อุ
ใช้เป็นกำบังตาให้กลั้นใจ
ถอนหญ้าขึ้นมา 1 กำมือ
ยกขึ้นเหนือหัว แล้วภาวนาหัวใจพระแม่ธรณี เมอะมะอุ พระแม่ธรณี ช่วยลูกด้วย
แล้วภาวนาเรื่อยไป แม่พระธรณีจะมาคุ้มภัย ให้ศัตรูมองไม่เห็น ผ่านเลยไป
การใช้พระคาถาพระแม่ธรณี
วันพฤหัสให้ใส่บาตรพระ
1 รูป
พร้อมดอกไม้ธูปเทียน อุทิศกุศลให้ ลพ.เงินวัดดอนยายหอม แล้วกล่าวคำประสิทธิเม
จากนั้นก็เริ่มทำให้ติดนิสัย เมือออกจากประตูบ้าน ให้ยืนสงบนิ่ง
สายตาจ้องพระแม่ธรณี ยกเท้าขวาขึ้นจากพื้น จิกปลายเท้า ลงเหยียบพระแม่ธรณี
ให้พูดเองเออเองในใจว่า
เมอะมะอุ
แม่พระธรณีแม่อยู่แล้วหรือยัง อยู่แล้วขอแม่พระธรณีคุ้มชีวิตลูกนี้ด้วยเถิด
พระคาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย อ.ไพฑูรย์
อิติปิโส วิเสเสอิ
อิโสโส พุทธะนาเม อิเมมหาพุทธัง อิโสตัง ภะคะวันตังติ
พระเวทย์ นี้ใช้สำหรับอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
ของพระพุทธเจ้ามาสู้องค์พระเครื่อง
คาถา ฤทธิ์เดช อ.ไพฑูรย์
นะรานะรา อิตังเทวัง
นะราเทเว หิปูชิตัง นะรานัง กามะปังเกหิ
นะมามิสุขะตังชินัง
กะยะพุทตัง
ใช้ภาวนาเมื่อต้องการเสริมฤทธิ์
ใช้ภาวนาเมื่อจะเข้าไปที่อันตราย ภาวนา
จะทำให้มีฤทธิ์เดชเป็นที่เกรงขามของทุกคน
ทำให้รอดพ้น อันตรายต่างๆ
คาถา มหาอุดย่อ อ.ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม ของ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์
พุทธังอุด ธัมมังอุด
สังฆังอุด พระเจ้าห้ามอาวุธ อุดด้วยนะโมพุทธายะ
ใช้ภาวนาเวลาเข้าห้อง
น้ำ เพราะขณะที่เราเข้าห้องน้ำ เนื่องจากทวารของเราจะเปิด
ให้ภาวนาเป็นการป้องกัน
คาถาพระยาเต่าเรือน
นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ
มีอนุภาพมาก
สามารถลบเลือนคดีความต่างๆได้
จะภาวนา เป็นมหาลาภ
ก็ได้ หากภาวนา นาสังสิโม ไปเรื่อยๆ
คำว่าอดไม่มีเลยทีเดียว ถ้าประจันศัตรู
ให้นั่งเหนือลม เป่าไปเถิด
ศัตรูงวยงงเลอะเลือน
ภาวนาพ่นลมบุหรี่ก็ได้
คาถากระทู้เจ็ดแบก เด่นด้านแคล้วคลาด จาก อ.ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม
อิระชาคะตะระสา อิ
พระเวทย์แคล้วคลาดสำนักวัดประดู่โรงธรรมกรุงศรีอยุธยา
ให้ตั้งนะโม 3 จบ ให้เสกน้ำมันงาทาตัวก่อนจะออกจากบ้านพระเวทย์มีว่า(จากเวปนักเลงโบราณตำนานคนหนังเหนียว)
โอม อุด อัด ปัด ปิด โอม ผุด ผัด ผิด อิ อุด
ติ อัด ปิ ปัด โส ปิด โส ผุด ปิ ผัด ติ ผิด โส สวาหะ นะโมพุทธายะ ปัด โหติ
สัมภะโว เสกน้ำมันงา 3-5-7-9 จบ เอานิ้วชี้มือขวาจิ้มน้ำมันงามาทาวนขวาเป็นวงกลมรอบลิ้นปี่ 3 รอบไปเถิดศาสตราวุธสาดเข้ามาเป็นห่าฝนไม่ถูกต้องตัวแล
คาถากันสัตว์ร้าย อ.ไพฑูรย์
คัจฉะอะมุมหิ โอกาเสติถาหิ
บริกรรม ช้าง
ควายจระเข้ สารพัดสัตว์ ไม่สามารถทำร้ายได้เชื่อมาแล้วอย่ากลัวเลย
คาถาผูกปากจระเข้ หรือสัตว์ร้าย
กายะพันธัง
จิตธะพันธนัง
คาถาเสกขี้ผึ้ง ขมิ้น หมาก ก็ได้
โอม จิตมะพิสมัย
นะโมจิตตัง สาระพัดจิต ตัง สะวาหะ
คาถามหาอำนาจตวาดฟ้าป่าหิมพานต์ จาก อ.ไพฑูรย์
เมื่อเข้าที่คับขันให้ทำจิตให้มั่นคงแล้วภาวนาคาถามหาอำนาจตวาดฟ้าป่าหิมพานต์ไว้ในใจให้มั่น
"ภะ สัม สัม วิ สะ เท พะ
ภะ"
เมื่อจิตเป็นหนึ่งแล้วจึงวิ่งทะลวงออกไปส่งเสียงตวาดหรือตะโกนอะไรก็ได้แล้วฟ้าออกไปศัตรูจะตกตะลึงทำอะไรไม่ถูกเลยบอกให้พวกนักพนันไปใช้ให้วิ่งฝ่าตำรวจที่เข้าไปจับบ่อนได้ผลมาแล้วหลายต่อหลายราย
คาถาดึงมีดหมอออก
จากการแทง
" พุทธังปัจจะขามิ
ธัมมังปัจจะขามิ สังฆังปัจจะขามิ" จึงกลั้นลมหายใจดึงมีดออก
พระคาถาบูชางั่ง
จากเวปนักเลงโบราณ ตำนานหนังเหนียว
บทที่1.ตังเมสะทิโก มังสุเส โสอะปะนา
ปะสุสุปิ อิทะสิติ อุวิสิเว กุโกกะโค นะมามิหัง
บทที่2.อะสังวิสุโล ปุสะพุภะ สังวิทา
ปุกะยะปะ นะโมพุทธายะ มะอะอุ อะระหัง
บทที่3.มะอะอุ อิทิกะมู
สังตรีเทวานัง อุอะสะหวา มหามันตรา นะเมตตา มะอะอุ โลเปเกไยยัง อังการะเส
วะราชิโน
บทที่4. อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส
พุทธะ นาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ
บทที่5. โอมนะโมพุทธายะ นะมะอะอุ
เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พหูชนา เอหิ
คาถามหาอุด อ.ไพฑูรย์
พันธุ์เชื้องาม
นะอุด โมอัด พุทยัด
ธาปิด ยะขัดลำ อุดอัด ยัดปิด ขัดลำ ด้วยนะโมพุทธายะ
คาถาหัวใจสุนัข ใช้ภาวนาผ่านบ้านที่
สุนัขดุ อ.ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม
อิมาอากิ
คาถาแทงเข็มไม่เจ็บ ของหลวงปู่ภู วัดอินทราวาส
อมมกราคม คมเสมหะ
รักปิดบุพโพ โรสาระนัง คัจฉะมุมหิ
ท่อง 108 คาบ คาบละ7 จบ
พระคาถามหาอุด หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์ โดย
อ.ไพฑูรย์ พันธ์เชื้องาม
นะอุด โมอัด พุทยัด
ธาปิด นะมิด ลูกไม่ออก
ให้ภาวนาไว้ในใจตลอดเวลา
เวลาเจอเหตุการณ์ที่คับขัน จะทำให้ ศัตรูยิงไม่ออก
พระคาถามหากำบัง(พระเจ้าซ่อนหา) หลวงพ่อเดิม
วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์
นะห้าม โมปิด พุทมิดหัว
ธาล้อมตัว ยะซ่อนหัว หายตัวนะบัดนี้ นะจงงง โมจังงัง พุทกำบัง ธาละลาย
ยะสูญหาย
อนัตตาสูญเปล่า ภาวนาด้วยใจมั่น ลุกยืนกลั้นหายใจ
ออกวิ่งไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จิตอย่าตก ให้ระลึกว่า มองไม่เห็น วิ่งจนหมดอึดใจ
พระคาถาแปลงรูป อ.ไพฑูรย์ พันธ์เชื้องาม
ติหัง จะโต โลติ นังติ
ใช้ภาวนา
ถ้าไม่ต้องการให้ใครเห็นหน้าเรา
คาถากระทู้เจ็ดแบก อ.ไพฑูรย์ พันธ์เชื้องาม
อิระชาคะตะ ระสาอิ
ทดลองได้ นั่งภาวนา
ใต้ต้นพุทรา ให้เขย่า กิ่ง จะไม่ถูกคนที่ภาวนา
พระคาถานอนป่า ที่วิเวกวังเวง นอนโรงแรม หลวงพ่อเดิม
วัดหนองโพธิ์
ตั้งนะโม3จบ
สัพพะพุทธา นุภาเวนะ
สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ
สัพเพสัตตา ทวิปาทา
จตุปาทา อะปาทา สัพเพมิจฉาทิฐิ เทวา
ปิศาเจวะ อะปะราชะยัง
|